ฤดูกาลในประเทศฝรั่งเศส
สำหรับบทเรียนภาษาฝรั่งเศสเรื่องฤดูกาลนี้ เป็นความรู้เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศสที่อยากนำมาเป็นข้อมูลว่า ประเทศฝรั่งเศสนั้น มีกี่ ฤดูกาล มีฝนตกเหมือนประเทศไทยหรือไม่ หิมะตกช่วงไหน อากาศร้อนอยู่ที่อุณหภูมิเท่าไหร่ เหมาะสำหรับผู้อยากจะหาข้อมูลก่อนเดินทางท่องเที่ยว ก่อนอื่นนะคะ สำหรับคำว่า ฤดูกาล ภาษาฝรั่งเศสเราใช้ว่า La saison ( ลา เซซง) ค่ะ
Il fait beau | (อิล เฟ โบ) | อากาศดี |
Il fait chaud. | (อิล เฟ โช) | อากาศร้อน |
Il fait froid. | (อิล เฟ ฟรัว) | อากาศหนาว |
Il neige. | ( อิล แนดเช่อ) | หิมะตก |
Il pleut. | ( อิล เปลอ) | ฝนตก |
Il pleut souvent. | ( อิล เปลอ ซูวอง) | ฝนตกบ่อยๆ |
Le soleil couche tard. | ( เลอ โซเลย กูชเช่อ ตาร์) | พระอาทิตย์ตกช้า |
Le ciel noir. | (เลอ ซีเยย นัวร์) | ท้องฟ้ามืด |
ประเทศฝรั่งเศสจะแบ่งฤดูกาลออกเป็น 4 ฤดู ดังนี้ค่ะ
- ฤดูใบไม้ผลิ ( le printemps = เลอ แพรงต็อง) ฤดูใบไม้ผลิเริ่มวันที่ 21 มีนาคม สิ้นสุดวันที่ 21 มิถุนายน โดยประมาณ ในฤดูนี้อากาศจะอบอุ่นขึ้น ในเวลาไม่กี่วันหลังอากาศอบอุ่นต้นไม้จะผลิใบเขียวชอุ่ม ปลายเดือนมีนาคมและเดือนเมษายนอากาศจะไม่แน่นอน บางทีอาจจะมีฝนตกบ้าง อากาศจะดีจริง ๆ ในเดือนพฤษภาคม (mai =เม) ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่สวยงาม ฟ้าจะเป็นสีฟ้าใส พระอาทิตย์ซึ่งไม่เคยปรากฏในฤดูหนาวเริ่มส่องแสง ฤดูนี้ได้ชื่อว่าเป็นฤดูแห่งดอกไม้แห่งงานฉลองแห่งความรัก ( la saison des fleurs (ลา เซซง เด เฟลอ= ฤดูกาลดอกไม้), des fêtes des amours (ลา แฟต เด ซามูร์= เทศกาลแห่งความรัก ) มีงานฉลองมากมาย เช่น พิธีรับศีลจุ่ม พิธีแต่งงาน ฯลฯ
- ฤดูร้อน ( l’été = เลเต้ ) เริ่มต้นประมาณวันที่ 22 มิถุนายน สิ้นสุดวันที่ 22 กันยายน ฤดูร้อนเป็นฤดูที่กลางวันยาวมาก กลางคืนสั้นประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง พระอาทิตย์ตกดินช้า สามทุ่มหรือสี่ทุ่มยังไม่มืด ฤดูร้อนในฝรั่งเศสอากาศร้อน ผู้คนจึงไปชายทะเล ฤดูร้อนเป็นฤดูแห่งวันหยุด ผู้คนเฝ้ารอฤดูนี้เพื่อจะได้ไปเที่ยวทะเล เพื่อจะได้อาบแดด เพื่อจะได้รับประทานผลไม้สด ๆ เช่น สตรอเบอรี่ ( les fraises= เล เฟรซเซ่อ) แต่ในฤดูร้อนผลไม้ยังไม่อร่อย ต้องรอให้ผลไม้สุกเสียก่อน ฤดูร้อนบางปีอากาศอาจจะไม่ดีฝนตกบ่อย ๆ ฤดูร้อนที่อากาศไม่ดีเรียกว่า été pourri (เอเต้ ปูคี) ความหมายคือไม่เพลิดเพลิน เป็น “ฤดูร้อนที่เน่าเสีย” คาดว่า “été canicule (เอเต้ กานิกูลเล่อ)” หมายถึงช่วงต้นฤดูร้อนที่อากาศร้อนมาก บางเมืองอากาศจะร้อนมาก อุณหภูมิที่สูงสุดในฤดูร้อนในฝรั่งเศสประมาณ 30 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนมากสำหรับประเทศหนาว ทำให้คนอยากไป vacances (วาก็องเซ่อ = วันหยุดพักร้อนยาวๆ) โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเมืองใหญ่อย่างปารีส
- ฤดูใบไม้ร่วง ( l’automne = โลตอนเน่อะ) ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นประมาณวันที่ 23 กันยายน สิ้นสุดวันที่ 21 ธันวาคม อากาศที่สดใส แดดจ้าในฤดูร้อนเริ่มเปลี่ยน ท้องฟ้าสีเทา ลมแรง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีเหลือง กลางวันสั้นมากขึ้น กลางคืนยาวขึ้น ใบไม้สีเหลือง แห้งและร่วง ฤดูใบไม้ร่วงก็เหมือนฤดูอื่น ๆ คือ อาจจะเป็นฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศดี หรือฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศไม่ดี คือ ฝนอาจจะตกบ่อย ตอนต้นฤดูอากาศมักจะดี ตอนปลายฤดู คือ เดือนพฤศจิกายนอากาศจะไม่ดี ท้องฟ้าเป็นสีเทาและมืดครึ้ม ตอนที่ใบไม้ร่วง ต้นไม้โกร๋นเป็นตอนที่เศร้า แต่ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สวยฤดูหนึ่ง เพราะใบไม้ที่เปลี่ยนสีทำให้ฟ้าสวยงามหาที่เปรียบไม่ได้ ป่าไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ( ตอนต้นและตอนกลางฤดู ) จะใช้คำขยายว่า coloré (ออกเสียงว่า= กอลอเค) ซึ่งหมายถึงระบายด้วยสีประดับด้วยสี ( อันสวยงาม ) “ศิลปินมักจะให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สวยที่สุด เนื่องจากสีใบไม้ที่เปลี่ยนสีแตกต่างกันมากมายหลายสี ซึ่งธรรมชาติเท่านั้นจะทำได้
- ฤดูหนาว ( l’hiver= ลีแวร์ ) เริ่มประมาณวันที่ 22 ธันวาคม สิ้นสุดวันที่ 20 มีนาคม ปลายฤดูใบไม้ร่วง กลางวันสั้นมากขึ้น ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฤดูหนาวในประเทศหนาวหรือประเทศฝรั่งเศสคือ ความหนาว ฝนและหิมะ แต่ฤดูหนาวก็เหมือนฤดูอื่น ๆ คือ เป็นฤดูที่คนบางกลุ่มเฝ้ารอ นั่นคือผู้ที่ชอบกีฬาฤดูหนาวและผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาฤดูหนาว เมืองที่อยู่บริเวณภูเขาและเป็นสถานีสกี ( Stations de ski = สตาซิยง เดอ สกี) จะคึกคักและมีชีวิตชีวา
ฤดูหนาวเป็นฤดูแห่ง “sports d’hiver =สปอร์ ดีแฟร์” ครอบครัวหรือโรงเรียนจะพาลูก ๆ และเด็ก ๆ ไปเล่นสกีบนภูเขาในช่วง vacances de neige (วาก็องเซ่อ เดอ แนดเช่อ= วันหยุดช่วงหิมะตก) vergla ( แฟร์กลา=ฝนปนหิมะ ) gel ( เชล=น้ำที่แข็งตัว ) และ dégel ( เดเชล= น้ำแข็งที่ละลายแล้ว ) นอกจากเจ้าของรถจะต้องเตรียมรถของตนให้พร้อมที่จะแล่นไปบนถนนที่อันตรายแล้ว ทางราชการก็เตรียม chasse – neiges ( แชสเซ่อ แนคเช่อ= รถกวาดหิมะ ) เพื่อเปิดทางหากหิมะตกมาก ๆ บนทางหลวงก็จะมีกระสอบทรายและกระสอบเกลือวางไว้ประจำ
ฤดูหนาวเป็นฤดูแห่งงานฉลอง ที่สำคัญๆอย่างยิ่งคือ Noël (โนแอล = คริสมาสต์), Nouvel An (นูแวล ลอง= ปีใหม่)
ขอยกตัวอย่างดังประโยคต่อไปนี้
Il fait beau en printemps. ( อิล เฟ โบ ออง แพร็งตอง) อากาศดีในฤดูใบไม้ร่วง
Il neige en hiver. (อิล แนดเช่อ ออง นีแวร์) หิมะตกในฤดูหนาว
Il pleut souvent en automne. (อิล เปลอ ซูว็อง ออง โนต็อน) ฝนตกบ่อยๆในฤดูใบไม้ร่วง