เชื่อว่าหากพูดถึงเรื่องการ เรียน TOEIC น่าจะเป็นอีกคำหนึ่งที่คนได้ยินกันบ่อยๆ นอกเหนือจากการเรียนกวดวิชาหรือเรียนเสริม พวก TOEFL หรือ IELST และอีกหลายๆ ชื่อที่คุ้นหูกันดี แต่ก็ยังมีคำถามตามมาว่า TOEIC นั้นมันมีความแตกต่างอย่างไรกับการเรียนเสริมที่เป็นภาษาอังกฤษอื่นๆ และเมื่อเรียนแล้วนำไปสอบได้ผลที่แตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไรบ้าง ?
TOEIC ย่อมาจากคำว่า Test of English for International Communication เป็นชื่อของการสอบทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยการสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ทักษะในด้านการฟัง และทักษะในด้านการอ่านภาษาอังกฤษ การสอบจะเป็นการสอบแบบปรนัย หรือเลือกคำตอบ จะมีข้อสอบที่เป็นทักษะด้านการฟัง 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน และ ข้อสอบทักษะด้านการอ่านอีก 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน รวมทั้งหมด 200 ข้อ คะแนนเต็ม 990 คะแนน ใช้เวลาในการสอบประมาณ 2 ชั่วโมง… นี่เป็นลักษณะของการสอบ TOEIC ที่เป็นมาตรฐาน ดังนั้นการเรียนเพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมในทักษะทางด้านการฟังและการอ่านเป็นหลัก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเข้ารับการสอบ
การสอบ TOEIC มีความแตกต่างจากการสอบตัวอื่นตรงที่มันเป็นการสอบที่เน้นเพื่อใช้ในการทำงาน ไม่ใช่การสอบวัดระดับทักษะเพื่อการเรียนต่อ ดังนั้นจึงมีคนกล่าวว่ามันเป็นการสอบที่ค่อนข้างง่ายกว่าการสอบอื่นๆ เนื่องจากเน้นไปที่การสื่อสารแบบทั่วไป ไม่เน้นวิชาการมากนัก เป็นการวัดระดับความสามารถเพื่อสื่อสารทั่วไปในการทำงานเป็นหลัก ความเข้มในเรื่องไวยากรณ์จึงไม่หนักหนาเหมือนการสอบ TOEFL หรือ IELST ที่น่าสนใจก็คือ ในการสอบเพื่อชิงทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศบางทุนเขาอนุญาตให้ใช้คะแนนสอบ TOEIC แทนคะแนนการสอบ TOEFL หรือ IELST ได้อีกด้วย ! ดังนั้นมันจึงเป็นการสอบที่หลายคนให้ความสนใจ (ก็ตรงที่มันง่ายกว่านี่เอง) หรือบางคนใช้เป็นตัวทดสอบความพร้อมของตัวเองก่อนการเข้าสอบ TOEFL หรือ IELST เหมือนเป็นสนามซักซ้อมความพร้อมทางด้านภาษา ก่อนจะเข้าไปเจอการสอบที่หนักกว่า… และมันทำให้เรารู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเองในเรื่องภาษาได้จริงๆ เนื่องจากด้านหลังของเอกสารแจ้งผลคะแนนจะมีคำแนะนำติชมผลการสอบของแต่ละคนด้วย ! เจ้าตัวนี้เองที่เป็นตัวบอกให้เรารู้ว่าเราควรเสริมอะไรเพิ่มเติมในกรณีสอบไม่ผ่าน หรือ ทำคะแนนการสอบครั้งนั้นได้ไม่ดีเท่าที่ต้องการ เพื่อเตรียมตัวใหม่ให้พร้อมสำหรับการขอเข้าสอบครั้งใหม่ในอนาคต การ เรียนบางครั้งจึงเป็นเสมือนการเรียนเพื่อปรับพื้นฐานก่อนไปในตัวด้วย
ความน่าสนใจอีกอย่างที่เชื่อว่าเป็นแรงดึงดูดให้หลายคนสนใจ เรียน TOEIC ก็คือ ในการใช้คะแนนสอบ TOEIC ประกอบในการสมัครงานนั้น เราสามารถเลือกใช้คะแนนสอบครั้งใดก็ได้ ! ขอแค่คะแนนนั้นมาจากการสอบที่ไม่นานเกิน 2 ปี ในวันที่ยื่นเอกสารเพื่อสมัครงาน นั่นหมายความว่าหากเราได้คะแนนครั้งแรกไม่น่าพอใจ ไปลองสอบครั้งที่ 2 ปรากฏว่าแย่กว่าเก่า ! เราสามารถใช้คะแนนครั้งแรกที่ดีกว่ามาประกอบการสมัครแทนได้ !
และด้วยความที่การสอบ TOEIC เป็นการสอบที่มีเจตนาใช้เพื่อการทำงาน คนที่ทำงานประจำแล้วหากจะไปสอบยังมีสิทธิ์ได้ส่วนลดราคาได้ด้วย แต่ก็แล้วแต่กรณีไปซึ่งบางทีก็อยู่ที่บริษัทบางแห่งที่เข้าร่วมจัดโปรโมชั่น ถ้าเราไปกรอกใบสมัครงานก่อนสอบ ก็จะมีส่วนลดให้ นี่ก็เป็นความน่าสนใจอีกอย่างสำหรับคนทำงาน
TOEIC นั้นแน่นอนว่าเน้นที่เรื่องการฟังและการอ่าน ส่วนคำศัพท์ หรือเรื่องราวที่จะได้เรียนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำงาน เครื่องใช้ในสำนักงาน การประชุม การลากิจลาป่วย การออกจากงาน ซึ่งเป็นคำศัพท์ทั่วๆ ไป
ทั้งหมดนี้คือความน่าสนใจในการ เรียน TOEIC ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอยากทราบก่อนการตัดสินใจว่าจะเรียนกวดวิชาเพื่อเข้ารับการสอบ
TOEIC การฟัง
TOEIC หรือ Test of English for International Communication คือการทดสอบแบบปรนัยเพื่อประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา ซึ่งการได้คะแนนจาก TOEIC แสดงให้เห็นว่าผู้สมัครสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับคนอื่นได้ดีเพียงใดในสถานการณ์ทางสังคมหรือที่ทำงาน ซึ่งการทดสอบการฟังและการอ่าน TOEIC จะใช้เพื่อ เป็นการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษ ,เพื่อการตัดสินใจเลือกตั้งบุคลากร ,เพื่อการส่งเสริมพนักงาน หรือติดตามความคืบหน้าของการได้มาซึ่งภาษาอังกฤษ โดยในส่วนการฟังของ TOEIC ผู้สอบจะต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีเพียงใด และระยะเวลาของการทดสอบการฟังทั้งหมดจะมีสี่ส่วนในส่วนการฟังและมีการกำหนดทิศทางสำหรับแต่ละส่วน ซึ่งผู้สมัครจะต้องทำเครื่องหมายคำตอบของตนในแผ่นคำตอบที่แยกจากกัน
หลักการเลือกคำตอบจากการฟังแบบทดสอบ TOEIC
สำหรับ TOEIC Listening ตอนที่ 1 นี้คุณจะได้ยินสี่ข้อความเกี่ยวกับภาพในหนังสือทดสอบของคุณ คุณจำเป็นต้องเลือกคำสั่งหนึ่งคำจากสี่ข้อความ เพื่ออธิบายถึงสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณเห็นจากในภาพ จากนั้นคุณควรหาจำนวนคำถามในแผ่นคำตอบและทำเครื่องหมายคำตอบของคุณไว้ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการฟังคือการประเมินความสามารถในการฟังของผู้สอบและความสามารถในการประเมินคำตอบที่ถูกต้องให้ได้ อาจเป็นรายละเอียดที่ต้องจำมาจากความคิดหลักในการทำความเข้าใจ ซึ่งคำถามที่ถามในส่วน TOEIC จะขึ้นอยู่กับหัวข้อหรือสถานการณ์ที่คุณจะพบเป็นประจำ ไม่มีข้อแตกต่างใด ๆ ในการทดสอบ TOEIC เมื่อคุณเริ่มต้นกับส่วนฟังแล้วจะไม่มีการหยุด แต่ควรจะทำเครื่องหมายคำตอบไว้ทีละรายการ หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับคำตอบ คุณสามารถลองลบตัวเลือกที่ผิดของตัวที่เห็นได้ชัดแล้วเลือกหนึ่งข้อที่คิดว่าถูกจากส่วนที่เหลือ
ประเภทของคำถามในการฟัง TOEIC
รูปถ่าย : จะมีประมาณ 10 คำถาม ซึ่งในส่วนการฟัง TOEIC คุณจะเห็นภาพในหนังสือสอบของคุณแล้วคุณจะต้องฟังคำถาม เพื่อเลือกคำตอบจากสี่ข้อ ผู้สอบจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องจากสี่ข้อ ซึ่งตัวเลือกคำตอบอาจมีคำที่ทำให้เกิดความสับสนกับผู้สอบได้
คำถาม : ในการถามตอบคำถามประเภทของการฟังนั้น ผู้สอบจะได้ยินคำถามซึ่งจะตามด้วยการเลือกคำตอบที่เป็นไปได้เพียงสามข้อ จากสามตัวเลือก โดยจะต้องหาคำตอบให้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกต้อง ตัวเลือกคำตอบที่ไม่ถูกต้องอาจมีเสียงคล้าย ๆ กันเพื่อให้ผู้ฟังสับสน ผู้สอบจะต้องฟังบทสนทนาสั้น ๆ อย่างรอบคอบและหาคำตอบที่ถูกต้อง
บทสนทนาสั้น : บทสนทนาสั้น ๆ มีประมาณ 30 ข้อ ซึ่งผู้สมัครจะได้ยินบทสนทนาทั้งหมด 10 บทระหว่างคนสองคน โดยจะมี 3 คำถามต่อหนึ่งบทความ ขณะฟังอยู่คุณต้องฟังเสียงบันทึกอย่างระมัดระวัง และจะต้องเลือกคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคำถาม ประเภทของคำถามที่ถามนั้นจะขึ้นอยู่กับการระบุหนึ่งหรือทั้งสองลำโพงระบุหัวข้อสถานที่ บุคคลหรือสิ่งต่างๆ
การสนทนาแบบสั้น : การสนทนาสั้น ๆ จะมีคำถามทั้งหมด 30 ข้อ ผู้สมัครจะได้ยิน 10 คำพูดสั้น ๆ จากบุคคลคนเดียว ผู้สมัครจะได้ยินคำพูดแต่ละครั้งเพียงครั้งเดียว ข้อสำคัญคือ..คุณต้องฟังและเข้าใจอย่างถี่ถ้วนในสิ่งที่พูด จะมีสี่ตัวเลือกซึ่งจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง
เคล็ดลับในการปรับปรุงการฟัง TOEIC
ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดเวลา เป็นสิ่งที่สมควรทำตามอย่างยิ่ง ผู้สมัครสอบควรปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดหากพวกคุณกำลังเตรียมตัวสอบ TOEIC การคำนวณเวลานอกจากจะช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะการฟังเท่านั้น หากแต่การฝึกสมองของพวกเขาสำหรับการทดสอบ จะมีความแตกต่างระหว่างการฟังโดยทั่วไปและการฟังภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดเวลา การฟังตามเงื่อนไขที่กำหนดจะช่วยให้คุณฟังและเข้าใจได้ดีขึ้น
ลองสร้างประโยคเกี่ยวกับรูปถ่าย
ในส่วนการฟังของ TOEIC คุณจะต้องกระจายความคิดหลัก เพื่อแปลความหมายของรูปถ่าย โดยสามารถฝึกการสร้างประโยคเกี่ยวกับรูปถ่าย ซึ่งจะช่วยให้คุณศึกษารายละเอียดที่สำคัญของรูปถ่ายและทำรายการสิ่งที่คุณเห็นในภาพ ซึ่งจะช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับสถานที่และเรียนรู้คำศัพท์ได้
การคาดเดามีบทบาทสำคัญในส่วนการฟังของ TOEIC ซึ่งผู้สอบจะถูกนำเสนอผ่านสิ่งต่างๆที่เพื่อใช้ทักษะการคาดการณ์สำหรับการมองหาคำตอบที่ถูกต้องก่อน ตัวเลือกต่างๆ จะช่วยให้คุณหาคำตอบที่ถูกต้อง โดยตอบคำถามแบบเลือกตอบเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเคยได้ยิน ซึ่งคุณสามารถใช้หน่วยความจำระยะสั้นของคุณในการเลือกคำตอบได้
TOEIC Tips