หมวดหมู่: คอร์สติวสอบเข้า

เรียน CU TEP ที่ไหนดี ติว CU TEP ตัวต่อตัว ออนไลน์

Published / by Language Tutor

เรียน CU TEP ที่ไหนดี


เรียน CU-TEP กับสถาบันเน้นการเสริมพื้นฐาน และการทำข้อสอบ CU-TEP ที่หลากหลาย

เรียน CU TEP กับ สถาบันของเรา ซึ่งเปิดสอนมากว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียนรวม หรือการติวแบบตัวต่อตัว ด้วยฐานข้อสอบเก่าที่หาไม่ได้ในที่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หรือหลักสูตร เราใช้ประสบการณ์ ความพยายาม แรงผลักดันจากความสำเร็จของนักเรียน รุ่นต่อรุ่น ทำให้สถาบันของเราเป็นตัวจริงของการพาน้องๆเข้าจุฬา คอร์สของสถาบัน Acknowledge จะเน้นที่การสอน ทั้งสามส่วนที่จะให้ความสำคัญเท่าๆกัน ไม่ว่าจะเป็น ส่วนของ Writing (20 ชั่วโมง) Reading Comprehension (20 ชั่วโมง) และ Listening (20ชั่วโมง) อีกทั้งยังเป็นการติวแบบกลุ่มเล็ก สอบถามปัญหาข้อสงสัยต่างๆได้อย่างทั่วถึง สามารถทำคะแนนได้ดีในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ในแต่ละปี นักเรียนของเราได้คะแนนมากกว่า 90 คะแนน มีให้เห็นเป็นประจำ สามารถเข้าเรียนในจุฬาได้เป็นจำนวนมาก โดยทั่วไป เกณฑ์ขั้นต่ำที่น้องๆควรจะต้องสอบให้ได้คือ 75 คะแนน ในคณะทั่วๆไป สำหรับการทำข้อสอบให้ได้คะแนนสูงนั้น จำเป็นที่จะต้องเน้นให้ครบทั้งสามส่วน ต้องทำคะแนนให้ได้ดีพอๆกันจะไป จะละเลยส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ เราจึงเน้นไปที่การสอนทั้งสามส่วนทั้งหมดครับ


คอร์ส CU TEP สอนสด และ ออนไลน์


คอร์สติว CU TEP ของสถาบันเรามีเรียน 2 รูปแบบ ให้เลือก มาเรียนที่สถาบัน หรือ ออนไลน์ ราคา 15,500 ต่อคอร์สเรียน 60 ชั่วโมง 

วันเริ่ม
เวลา
วัน
ประเภท
15 มีนาค 2568 09.00-16.00น   เสาร์  อาทิตย์ สอนสด
18 มีนาคม 2568 18.00-20.00น อังคาร  พฤหัส ออนไลน์

หมายเหตุ

  • สำหรับคอร์สวันเสาร์จะเป็นอาจารย์ 3 คน ติวแยกในแต่ละ PART และเป็นอาจารย์คนไทยที่ชำนาญเฉพาะทางทั้งหมด
  • หากผลการสอบไม่ได้ถึงที่ 80 คะแนน สามารถกลับมาเรียนซ้ำได้อีกหนึ่งรอบ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม มีเงื่อนไขของความตั้งใจที่จะต้องโดนประเมินจากอาจารย์ด้วยนะครับ
  • มีการทำ ข้อสอบเก่า ที่จะหาไม่ได้ที่สถาบันอื่น และเป็นข้อสอบเก่าที่ไม่ได้เอามาจากในหนังสือที่วางขาย
  • สถาบันเราสอนอย่างเดียว ไม่ได้ดำเนินการสมัครสอบให้นะครับ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียน CU TEP ตัวต่อตัว สามารถจัดวันเวลาเรียนได้เองเลยครับ โดยทีมอาจารย์ผู้สอนก็จะเป็นทีมเดียวกับที่ลงสองคอร์ส
  • ในกรณีเปิดคอร์สเรียบร้อยแล้ว ทางสถาบันขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินในทุกกรณี
  • ในกรณีดรอปคอร์ส (พักการเรียน) นักเรียนจะต้องชำระค่าดรอปคอร์ส 1,500 บาท
  • สำหรับการเรียนแบบตัวต่อตัว ถ้าขาดการติดต่อเกินสามเดือนถือว่าสละสิทธิ์

เรียน CU TEP ตัวต่อตัวกันเถอะ


การสอบ CU TEP จะเป็นการวัดผลในสามรูปแบบ นั่นคือ การอ่าน เขียน และการฟัง ซึ่งจริงๆแล้วมีส่วนของการพูดด้วยนะครับ แต่สกิลการพูดจะวัดผล ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้แบบเฉพาะทาง น้องๆนักเรียนที่เรียนมาในระบบอินเตอร์มักจะไม่ค่อยมีปัญหา ในเรื่องการอ่านและการฟัง บางคนสามารถทำส่วนของการฟังได้เกือบเต็ม แต่จะมีปัญหาด้าน writing ซึ่งจะเน้นไปที่การทำ error นั่นหมายถึงนักเรียนจะต้องมีความแม่นในหลักไวยากรณ์ แต่สำหรับน้องๆนักเรียนเด็กไทยจะค่อนข้างมีประสบปัญหากับส่วนของการสอบ การฟัง ซึ่งนักเรียนไทยอาจจะไม่ได้ใช้การสื่อสารพูดเป็นประจำ

นักเรียนแต่ละท่านมีข้อจำกัดในการ เรียน CU TEP ที่แตกต่างกันออกไป ในการเรียนคอร์สรวมที่ทางสถาบันจัดให้นั้น เป็นคอร์สเรียนรวมที่จะโฟกัสรวมๆ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะจุดในสิ่งที่น้องไม่ชำนาญ อีกทั้งการวางแผนการยื่นคะแนน ซึ่งของนักเรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเพิ่งตัดสินใจว่าจะเรียนด้านอินเตอร์ช้า โดยเฉพาะนักเรียนที่ขึ้น ม.6 แล้ว ทำให้การยืนคะแนนทุกอย่างดูเร่งรีบ ไม่ว่าจะคะแนน CU TEP หรือ คะแนน SAT นักเรียนบางคนรู้และเตรียมการมาตั้งแต่ ขึ้น ม.4 การวางแผนการเรียนก็จะมีความชัดเจน

เรียน CU TEP ตัวต่อตัว เป็นทางเลือกหนึ่งที่สถาบันของเรานำเสนอ โดยน้องๆสามารถเลือกเรียน และวางแผนระยะสั้น ด้วยกรอบเวลาที่จำกัด ต้องการเรียนเพื่อแก้ไขเฉพาะจุด เน้นทักษะการเรียนอย่างใดอย่างหนึ่งได้ โดยสามารถเลือกกำหนดวันเวลาเรียนเองได้ตามสะดวก และสามารถเลือกได้ว่าจะเรียน CU TEP ออนไลน์ หรือมาเรียนที่สถาบันแบบ onsite ก็สามารถทำได้ หรือสามารถชวนเพื่อนมาเรียนเฉพาะเป็นกลุ่มเล็กๆส่วนตัว ราคาไม่แพงอย่างที่คิด การเลือกเรียนแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูง และวางแผนงานล่วงหน้าได้ แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือกรณีที่ต้องการเร่งยื่นคะแนนนั่นเอง


แนวทางการติว CU TEP


แนวทางการสอน writing cutep ของสถาบันของเราWriting โดยส่วนใหญ่แล้ว การเขียนถือเป็นลักษณะของข้อสอบ ที่ผู้สอบมักจะไม่มีความชำนาญอันเนื่องมาจาก ตัวของผู้สอบไม่เกิดความเข้าใจ ในหลักภาษามาตั้งแต่ต้น ข้อสอบการเขียนของ CU TEP นั้นมุ่งประเด็นไป เพื่อวัดความรู้ความสามารถ ในเรื่องของกฎไวยากรณ์ และโครงสร้างที่ถูกต้องของภาษาเป็นหลัก โดยรูปแบบของข้อสอบ คือการหาจุดที่ผิดของไวยากรณ์ (Error Identification) ซึ่งปรากฎอยู่ในประโยคข้อสอบทั้ง 30 ข้อที่กำหนดให้ ดังนั้น ด้วยความยากของข้อสอบและเวลาที่มีเพียงครึ่งชั่วโมง ผู้สอบจึงเกิดความกังวล และเกิดความประหม่าอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงในท้ายที่สุดก็จะจบลงที่คะแนนในส่วนนี้ จะไปดึงคะแนนในส่วนอื่นให้ตกลงมาอีกด้วย ด้วยการเรียนที่เข้มข้นเกี่ยวกับโครงสร้างทางภาษา น้องๆจะสามารถวางใจได้ ถึงความรู้ที่ครอบคลุมทั้งหมดของการทำข้อสอบการเขียนประเภทนี้ เนื่องด้วยเราให้เวลา ในการ เรียน CU TEP ของส่วนนี้ถึง 20 ชั่วโมง สำหรับในส่วนของการสอนนั้น น้องๆจะได้รับความรู้ทางไวยากรณ์ ตั้งแต่ส่วนที่ง่ายที่สุด ไล่ไปจนถึงส่วนที่ยากขึ้นไปตามลำดับของแบบฝึกหัด ที่ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์

คอร์สของสถาบันเราสอนครบโดยอาจารย์คนไทยสามคน

ทั้งนี้เพื่อปูพื้นฐานไวยากรณ์ ที่อาจหลงลืมไป และเพิ่มพูนไวยากรณ์ใหม่ที่ยากแก่การเข้าใจ ในรูปแบบที่ง่ายต่อการเรียนรู้ ภายในเวลา 20 ชั่วโมงนี้ น้องๆมั่นใจได้เลยว่า จะได้รับความรู้ที่เป็นขั้นเป็นตอน และกลเม็ดเคล็ดลับ ที่สามารถนำไปผนวกใช้ได้จริง ในเวลาที่ต้องเจอกับข้อสอบจริงๆ จุดประสงค์ในการจัดชั้นเรียนของสถาบันเรามีเพียงเพื่อ ต้องการช่วยเหลือน้องๆทุกคน ให้ประสบความสำเร็จในการสอบ อีกทั้งด้วยความตั้งใจจริง ของเหล่าอาจารย์ที่รักในการติวหนังสือ สถาบันแห่งนี้จึงต้องการให้น้องๆทุกคน เชื่อว่าเราพร้อมที่จะเป็นแรงผลักดัน ให้น้องๆทุกคนไปถึงสิ่งที่มุ่งหวังไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของการทำข้อสอบ CU TEP ในส่วนของการเขียน เหล่าอาจารย์ของเรา อยากให้น้องๆทุกคนมั่นใจที่วางใจให้เราปูทางให้สู่รั้วมหาวิทยาลัย อย่างที่น้องๆนักเรียนหวังเอาไว้ เพราะความสุขของผู้ให้คือความรู้สึกดีใจของผู้รับ

แนวทางการสอน reading ของสถาบันของเราReading Comprehension จุดประสงค์หลักของข้อสอบการอ่านเพื่อความเข้าใจ คือ ต้องการจะวัดความสามารถในการแปลบทความ เชิงวิชาการซึ่งมีความสลับซับซ้อนของภาษาอังกฤษ และต้องการจะประเมินความสามารถในการอ่านจับใจความของผู้สอบ อีกด้วย ดังนั้นหัวใจสำคัญ ของการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่สนามสอบคือ ผู้สอบต้องมีความรู้เกี่ยวกับ หลักภาษาอังกฤษที่จำเป็น รวมถึงผู้สอบต้องมีองค์ความรู้พื้นฐาน เพื่อการจินตนาการให้เห็นภาพในขณะที่กำลังอ่านบทความ และที่สำคัญที่สุด ผู้สอบต้องมีคลังศัพท์จำนวนมาก ซึ่งสะสมไว้ในตัวไม่ว่าจะมาจากการท่องจำ  หรือจากการนำไปใช้จนเกิดความเคยชิน อย่างไรก็ตามหากเป็นการ เรียน CU TEP Listening ในชั้นเรียนอย่างเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพอ ในการทำคะแนนสูงๆในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งสกิลดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เวลาในการสะสมทักษะ นั่นคือ นักเรียนจำเป็นที่จะต้องไปทบทวน ดูหนังฟังเพลง ที่จะสามารถฝึกฝนสกิลนี้ด้วยตัวเองเพิ่มเติมขึ้นไป

หลักสูตรของสถาบันของเราจะให้เวลากับส่วนของการอ่านเพื่อความเข้าใจนี้ถึง 20 ชั่วโมง ซึ่งด้วยจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสมนี้ นักเรียนทุกท่านสามารถทำความรู้จัก และทำความคุ้นเคยกับข้อสอบการอ่านได้เป็นอย่างดี เนื่องจากแนวบทความของข้อสอบ และรูปแบบบทความที่สถาบันได้เตรียมเอาไว้นั้นมีลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งนี้เพื่อไม่ทำให้ผู้อ่านเกิดความประหม่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบทความทางวิชาการ ที่มีความสลับซับซ้อนของภาษา อาทิเช่น บทความทางเศรษฐกิจ บทความทางการศึกษาเชิงงานวิจัย บทความทางการแพทย์ และบทความทางสังคมและวัฒนธรรม ด้วยลักษณะการติวที่เน้นถึงความค่อยเป็นค่อยไป และความเข้มข้นของคำศัพท์ น้องๆจะสามารถทำความเข้าใจ บทความทุกประเภท ซึ่งจะไล่ลำดับจากบทความที่ง่าย ไปจนกระทั่งถึงบทความที่ยาก และด้วยคำศัพท์ที่ได้รับการกลั่นกรองมาแล้ว ว่าสมควรถูกนำไปใช้ในห้องสอบ น้องๆจะทยอยเรียนรู้คำศัพท์ที่ออกสอบผ่านแนวทางการท่องจำที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีการทบทวนคำศัพท์เหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้เกิดความคุ้นตา และสามารถเรียกใช้ในครั้งต่อไปได้ทันที


วิธีการเพิ่มคะแนนทักษะการฟัง


น้องๆนักเรียนจับกลุ่มเรียนตัวต่อตัว

ข้อแรกคือ การชมภาพยนตร์ ข้อดีจริงๆของการชมภาพยนตร์คือ บางทีคุณอาจจะชอบหนังเรื่องนั้น และมันสนุก ดังนั้นก็อย่ากลัวที่จะรับชมภาพยนตร์แล้วบอกคนอื่นๆว่า คุณเรียนภาษาอังกฤษ (จากการชมภาพยนตร์ ) คำแนะนำเพิ่มเติมก็คือ เมื่อคุณรับชมภาพยนตร์ก็คือให้ชมด้วยซับไตเติลในภาษาของคุณค่ะ (ให้ดูซับไทย) เมื่อคุณชม”ครั้งเริ่มแรก” คุณสามารถชมด้วยซับไตเติ้ลในภาษาของคุณแล้ว เมื่อคุณเข้าใจภาพยนตร์แล้ว คุณรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น คุณก็สามารถเปลี่ยนเป็น ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษค่ะ

 

 

ดังนั้นคุณก็จะได้เห็นว่า คนในภาพยนตร์เค้าพูดอะไรจริงๆ ดังนั้นคุณ ก็สามารถเรียนวิธีการสร้างคำ, การออกเสียง ของเค้า และนอกจากนั้น คุณยังได้เรียนรู้คำศัพท์ และแสลงค่ะ คำศัพท์แสลงเป็นจำนวนมากเลยค่ะ เพียงสิ่งเดียวที่ไม่ดีเกี่ยวกับภาพยนตร์ ก็คือ มันยาวมาก นักเรียนบางคนอาจเบื่อได้ ภาพยนตร์ยาวประมาณหนึ่งชั่วโมง ถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สิ่งที่ดีกว่าที่จะทำเมื่อคุณเรียนภาษาอังกฤษเรื่องการฟัง ก็คือการดูทีวีค่ะ รายการโทรทัศน์ปกติแล้ว มีความยาว 20 นาที และคุณก็สามารถหามารับชมได้จากทั่วโลก ถ้าคุณต้องการฟังภาษาอังกฤษสำเนียงบริติช หรืออเมริกันอิงลิช คุณสามารถเลือกรายการโทรทัศน์จากอังกฤษหรือจากอเมริกา และเราก็มีรายการโทรทัศน์จากคานาดาด้วย รายการโทรทัศน์นั้นน่าจะดีกว่าภาพยนตร์เพราะว่ามันสั้นกว่า ยิ่งคุณนั่งหน้าจอโทรทัศน์หรือจอภาพยนตร์นานเท่าไหร่ และได้ฝึกแปลภาษา สมองคุณจะเริ่มเหนื่อยมากขึ้นเท่านั้น แล้วคุณก็จะยอมแพ้ เลิกทำ เพราะมันเยอะไป เหมือนการบ้าน ดังนั้น 20 นาที ดูรายการโทรทัศน์ ครั้งแรกเปิดซับภาษาที่คุณใช้(ซับไทย) แล้วครั้งต่อมาเปิดซับภาษาอังกฤษ ก็จะช่วยคุณพัฒนาทักษะการฟัง เมื่อคุณทำอย่างนี้ได้สองสามครั้ง คุณจะอยากชมมันเรื่อยๆ แล้วคุณสามารถปิดซับไตเติ้ล แล้วก็”ฟัง”ว่าเค้าพูดอะไร จะเตือนนักเรียนนะคะ ว่าเค้าพูดเร็วมากๆ ดังนั้นคุณต้องใช้ซับไตเติ้ลก่อน ก็จะช่วยคุณได้มากทีเดียวค่ะ

ตัวต่อตัว ออนไลน์

ข้อต่อมา เป็นข้อหนึ่งที่หลายคนชอบนะคะ คือดนตรี ทุกคนรักดนตรีค่ะ ใช่มั๊ยคะ? เมื่อคุณฟังดนตรี คุณต้องเข้าใจว่าดนตรีนั้นไม่ใช่หลักไวยากรณ์ (grammar) ดนตรีนั้นเขียนผิดแกรมม่าค่ะ เป็นแกรมม่าที่แบบผิดชัวร์, ภาษาวิบัติเลยค่ะ แกรมม่าแย่มาก เค้าพูดอะไรอย่าง I ain’t got know you bebe! ซึ่งนั่นไม่ใช่แกรมม่าน่ะค่ะ ดังนั้นกรุณาอย่าตามแกรมม่าในเพลง อย่าคิดว่าคุณจะเรียนแกรมม่าจากเพลงนะคะ แต่ที่คุณสามารถทำได้ คือคุณสามารถดู lyrics ปกติแล้วคือ the words to the song ดังนั้นเมื่อคุณมีซีดีหรือเอ็มพีทรี หรืออะไรก็ตามที่ใช้บันทึกเพลงได้ ให้ดูในอินเตอเนตดู lyrics เนื้อเพลงของเพลงแล้วปรินท์ออกมา แล้วดูเนื้อแล้วฟังจากเพลง แล้วฟังคำ (เวลาเค้าออกเสียง) นั่นจะช่วยคุณเรื่องการฟัง ส่วนนี้ในคอร์ส เรียน CU TEP ของสถาบันเราจะมีการแนะนำอย่างเข้มข้น

ข้อสุดท้าย แปลว่า ออกไปข้างนอก มีนักเรียนหลายคนที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนต่างประเทศ แต่ก็ยังมีปัญหากับการฟัง สิ่งสุดท้ายที่คุณสามารถทำได้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังของคุณ คือ Go Out ค่ะ อย่าอยู่บ้านค่ะ ถ้าคุณอยู่ในประเทศที่ผู้คนไม่พูดภาษาอังกฤษ คุณจะไม่สามารถฟังภาษาอังกฤษได้จากนอกบ้านนัก แต่ถ้าคุณมาที่คานาดาหรือ ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และคุณยังคงเรียนรู้ภาษาอยู่ กรุณาอย่าเพียงแต่อยู่บ้านแล้วดูโทรทัศน์ ออกไปข้างนอกค่ะ ไปห้าง, ไปร้านค้า, ฟังเวลาคนอื่นเค้าสนทนากัน, ไปเดินในสวน, เดินตามผู้คนแล้วหลบหลังต้นไม้ (ไม่ใช่โจรนะ) มันสำคัญมากๆ ทักษะการฟังสำคัญมากๆเท่าๆกับประสาทสัมผัสต่างๆ เมื่อคุณอยู่ในโลก ในสิ่งแวดล้อมที่ผู้คนรอบๆตัวคุณนั้น ล้วนพูดภาษาอังกฤษกัน คุณจะเริ่มค่อยๆรู้เรื่องขึ้น และนั่นจะง่ายขึ้นสำหรับคุณ ในการที่จะเรียนรู้เพราะว่ามันอยู่รอบตัวคุณเสมอ สำหรับ การจะประสบความสำเร็จในส่วนของ listening ซึ่งจะเป็น part เดียวที่เรามีโอกาส ทำได้ครบ และได้คะแนนสูงหากฟังออก โอกาสที่จะได้คะแนนจึงมีมากกว่า part reading


Trick เพิ่มเติม


  • เวลาฝึกฟัง ห้ามใช้หูฟังเด็ดขาด เพราะเวลาอยู่ในห้องสอบต้องฟังจากลำโพง ต้องฝึกให้ชินไว้
  • ข้อสอบ 1 ชุด ฟังอย่างน้อย 3 รอบ โดยรอบแรก ฟัง และทำข้อสอบตาม จดบันทึกคะแนนที่ได้ เพื่อเก็บเป็นสถิติไว้ รอบสอง ฟัง และอ่านสคริปตาม เพื่อดูว่า แต่ละประโยค คำแต่ละคำเค้าออกเสียงยังไง รอบสาม ฟัง แบบไม่ดูสคริป แล้วเปิดสคริปตามทีละประโยค เพื่อดูว่า ที่เราฟังออก กับสคริปจริง มันตรงกันมั้ย

แล้วในช่วงที่ทำข้อสอบ เมื่อได้ข้อสอบมาปุ๊ป พยายามอ่านตัวเลือกก่อนเลย ตัวชอยส์จะบอกว่า เรื่องที่จะพูดเกี่ยวกับอะไร ในชอยส์หนึ่งข้อ จะมีความแตกต่างของเรื่องที่จะพูดอยู่พอสมควร เรียกง่ายๆ ว่าชอยส์นั้นเป็นคำตอบของคำถามคนละเรื่อง เมื่อได้ฟังตอนเทปเปิดแล้ว พยายามหาคีย์เวริ์ดของการฟังข้อนั้นว่า พูดเกี่ยวกับเรื่องอะไรและเลือกชอยส์ข้อนั้น จริงๆ แล้วบางครั้งไม่จำเป็นต้องฟังออกทั้งหมด ทุกประโยคหรือทุกคำ เมื่อเลือกแล้ว รีบผ่านไปอ่านชอยส์ของข้อต่อไปทันที โดยใช้วิธีเดียวกับข้างบน อย่ามัวลังเล เพราะจะพลาดการฟังข้อต่อไปได้ง่ายๆ จะทำให้เสียคะแนนในกลุ่มนั้นทั้งหมด กว่าจะตั้งตัวได้ และจะยิ่งทำให้ลนลาน ประหม่าไปหมด


คะแนนสอบ CU TEP เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง


ความสามารถทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ เป็นความสามารถที่สามารถหาความรู้เพิ่มเติม ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญเพื่อสร้างโอกาสมากมายให้กับชีวิต ได้ตั้งแต่เริ่มต้นการศึกษา การเรียน CU TEP ช่วยเพิ่มทักษะด้านภาษาอังกฤษนี้ช่วยให้คุณเหนือกว่า นอกเหนือจากความรู้ความสามารถเฉพาะด้านต่างๆ ที่คล้ายคลึงกัน หรือเรียนในสาขาเดียวกัน จุดมุ่งหวังที่จะสร้างประสบการณ์ที่สร้างโอกาสเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต เพื่อจุดมุ่งหมายสำเร็จการศึกษา ที่สามารถนำเอาความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษไปประยุกต์ใช้ จนเปิดทางให้เรามีโอกาสได้รับการศึกษาที่สูงดังตั้งใจหวังและมีโอกาสให้เราได้รับค่าตอบแทนในการทำงานที่เหนือกว่าปรกติ ซึ่งวิถีทางที่จะวัดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของคุณ ต้องทำบทสอบตามมาตรฐานต่างๆ ที่นิยมกัน ซึ่งในไทยมีการทดสอบที่ออกแบบโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชื่อว่า CU TEP

  1. CU TEP บททดสอบความสามารถทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ

CU TEP เริ่มต้นจากสถาบันภาษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กำหนดมาตรฐานการสอบวัดผลความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งได้เริ่มจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ก่อน แล้วขยายออกไปจนได้รับความนิยมอย่างมากในสถานศึกษาในประเทศไทย ทั้งหลักสูตรการสอนทั่วไปและหลักสูตรที่มีการใช้งานภาษาอังกฤษเป็นหลัก เดิมทีเป็นการสอบวัดผลความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษภายในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์เท่านั้น แต่ได้รับความนิยมจนเป็นที่แพร่หลาย จนสถานศึกษามหาวิทยาลัยภายนอกได้ให้การยอมรับผลสอบ CU-TEP จนกลายเป็นความนิยมที่นักเรียนชั้นอุดมศึกษาในปัจจุบันจำเป็นต้องมีผลสอบ CU-TEP เพื่อใช้รับรองการศึกษาต่อ จึงก่อให้เกิดสถานศึกษาเปิดสอนกันอย่างแพร่หลาย

  1. CU TEP บททดสอบทักษะความสามารถรอบด้าน

CU TEP ออกแบบบททดสอบเพื่อใช้วัดทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ทักษะการอ่าน (reading) ทักษะการฟัง (listening) และทักษะการเขียน (writing) กรณีต้องการสอบวัดผลด้านการพูด (Speaking) ให้แจ้งศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้จัดการทดสอบตามต้องการเป็นพิเศษได้ โดยคะแนนสอบ CU-TEP ที่ได้สามารถนำไปเทียบกับ TOEFL เพื่อใช้เทียบเกณฑ์ทักษะระหว่างมาตรฐานกันได้ โดยการสอบจะมีผลรับรองอายุ 2 ปี หากต้องการใช้หลังจาก 2 ปีต้องทำการสอบรับรองผลใหม่อีกครั้ง ผลสอบ CU-TEP เป็นการการันตีรับรองความสามารถของผู้สอบผ่าน CU-TEP ว่าเป็นผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้มาตรฐานทั้ง 3 ทักษะ ซึ่งผู้ที่สอบผ่าน CU-TEP สามารถใช้ผลสอบอ้างอิงคะแนน CU-TEP กับผลสอบ TOELF ได้ในบางมหาวิทยาลัย จึงควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดปลีกย่อย ของมหาวิทยาลัยที่ต้องการสอบเข้าให้เข้าใจเสียก่อน และหากต้องการวัดผลด้านการพูด (Speaking) สามารถติดต่อขอทดสอบเป็นพิเศษ ได้ที่ศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อนสอบ ผลสอบ CU-TEP จะรับรองผลภายใน 2 ปีเท่านั้น หากต้องการใช้ผลสอบ CU-TEP เมื่อเกินระยะ 2 ปีจากวันประกาศผลจำเป็นต้องสอบใหม่ทุกกรณี

  1. CU TEP ใช้สอบคัดเลือกศึกษาต่อและสมัครงาน

CU TEP กลายเป็นบททดสอบชี้วัดด้านทักษะ การใช้งานภาษาอังกฤษที่ยอมรับกันในหมู่สถานศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่งต่างประกาศรับผู้เข้าศึกษาต่อต้องผ่านด่าน CU TEP ให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยประกาศเป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะหลักสูตรอินเตอร์ที่ต้องใช้งานภาษาอังกฤษเป็นหลัก ดังนั้นหากต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกก็ควรหาที่เรียน CU TEP และเตรียมตัวสอบไว้แต่เนิ่นๆ จะดีที่สุด ผู้สอบผ่าน CU TEP ว่าเป็นผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้มาตรฐาน สามารถใช้อ้างอิงผลการสอบ CU TEP เพื่อประโยชน์ต่างๆ ตั้งแต่การรับสมัครเข้าศึกษาต่อตามมหาวิทยาลัย ที่เราต้องการโดยต้องศึกษาเงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัยว่าสามารถใช้ CU TEP ได้หรือไม่ให้สอดคล้องกันด้วย ในด้านการอ้างอิงผลเพื่อสมัครเข้ารับทำงานก็สามารถใช้ผลสอบ CU TEP ได้ด้วยเช่นกัน การพิจารณาจากผู้ว่าจ้างจะทราบถึงความสามารถทักษะ ในการใช้งานภาษาอังกฤษของผู้ผ่านการทดสอบ และอาจได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ หรือมีค่าตำแหน่ง ค่าวิชาในการสื่อสารภาษาอังกฤษเพิ่มให้ได้เช่นกัน

ในงานที่ต้องติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศ บางสถานประกอบการ จะลงรายละเอียดการวัดทักษะด้วย TOEFL และ CU TEP ไว้เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานการสมัครรับเข้าทำงาน หากเราได้เตรียมการสอบ CU TEP ไว้ตั้งแต่ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อจบการศึกษา และต้องการเริ่มต้นการสมัครเริ่มต้นการทำงาน CU TEP ของเดิมนั้นจะหมดอายุภายใน 2 ปี ซึ่งคุณจำเป็นต้องสอบใหม่อีกครั้งการเรียนตามสถาบันการศึกษาต่างๆ นอกจากจะสร้างความรู้ความชำนาญให้กับตัวคุณ แล้วยังเป็นการสร้างโอกาสที่รับรายได้จากการทำงานที่เพิ่มสูงให้คุณได้ดีอีกด้วย รู้แบบนี้ รออะไร ไปหาที่เรียนได้แล้ว


การอัพคะแนน CU TEP ให้สูงขึ้น


น้องๆ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ต่างมีความต้องการที่จะสอบวัดผลทักษะทางภาษาอังกฤษจากสถาบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือที่เรียกกันติดปากว่า ซียู-เทพ CU TEP ไม่ผิดหรอกครับถ้าจะมีผู้กล่าวคำนี้ขึ้นมา หากการสอบวัดผลทางภาษาอังกฤษนี้จะไม่เป็นที่ชื่นชอบกับผู้ที่ต้องการจะสอบ CU TEP แต่ความจำเป็นที่ต้องใช้การวัดผลนี้กับการยื่นขอสอบเข้ารับการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเมืองไทยก็ยังคงมีความสำคัญอยู่ดีนั่นเอง ในเมื่อเจอเหตุการณ์จำเป็นตรงหน้าแล้ว เราเองเลือกได้ให้เหมาะกับสไตล์ให้ถูกจริตของเราเองกันดีกว่า จะมีอะไรแบบไหนบ้าง ไปดูกัน

  • เรียน CU TEP กับสถาบันกวดวิชาที่เปิดสอน วิธีคลาสสิกมากที่สุดหรือบางท่านอาจเรียกวิธีสิ้นคิด แต่เชื่อเถอะหากน้องนักเรียนนักศึกษา ยังไม่ทราบเข็มทิศชีวิตว่าต้องเตรียมการอย่างไร หากมีงบประมาณที่สามารถเพิ่มพูนความรู้ในจุดนี้ได้ ก็ควรต้องยอมเสียเงินลงเรียน ตามคอร์สที่สถาบันสอนภาษาหรือกวดวิชาโดยเฉพาะก็จะช่วยให้รู้แนวทางการเตรียมความรู้ การเตรียมตัวต่างๆ ที่จำเป็น รวมถึงแนวข้อสอบต่างๆ ที่มีให้ได้ลองฝึกฝนเพิ่มเติม สถาบันของเรามีทีมอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการ ติว CU TEP ทั้งเป็นคอร์สและ เรียน CU TEP ตัวต่อตัว ด้วยประสบการสอนมากกว่า 10 ปี นักเรียนที่มาลงเรียนส่วนใหญ่ได้คะแนนสูงจากชุดข้อสอบเก่าที่เรามี
  • จากหนังสือตามร้าน วิธีนี้ได้รับความนิยมจากชาวหนอนหนังสืออย่างมาก นับเป็นวิธีแรกๆ ที่จะเริ่มต้น เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปจับจ่ายในร้านหนังสือ สังเกตตรงชั้นวางเบสเซลเลอร์จะมีหนังสือยอดนิยม ยิ่งช่วงใกล้สอบ CU TEP ก็จะเห็นหนังสือที่เกี่ยวกับการวางสอบเริ่มไต่อันดับขึ้นชั้นขายดีอยู่เป็นประจำ ดังนั้นก่อนที่เราจะสอบ CU TEP เราจึงควรไปหมั่นดูชั้นเบสเซลเลอร์อยู่เป็นประจำ เพื่อซื้อหนังสือต่างๆ เหล่านั้นมาอ่านเตรียมตัวไว้เรียนล่วงหน้ากันเลย ราคามีให้เลือกหลากหลายเลือกให้เหมาะกับความรู้ที่เราควรได้ จะเลือกเล่มไหน ก็ไม่ยากลองไปอ่านดูสักสองสามรอบ เพื่อลองเน้นเป็นบางจุดและกลับมาทำตามหนังสือถ้าได้ผลดีก็กลับไปซื้ออุดหนุนกันก็จะไม่ต้องซื้อหนังสือมากองโดยไม่ได้อ่านอย่างจริงจัง บางเล่มอาจอ่านแล้วไม่สามารถทำความเข้าใจได้ ก็จะได้ไม่ต้องเสียเงินในกระเป๋าไปหยิบจับกันมา การใช้หนังสือเพิ่มเติม จะช่วยให้คุณมีความรู้รอบด้านและเพิ่มประสบการณ์โดยเฉพาะแนวข้อสอบ ที่เราสามารถนั่งไทม์แมชชีนย้อนอดีตข้อสอบมาลองหัดทำแถมมีเฉลยแนบท้ายเพื่อตรวจสอบให้ถูกต้องมากที่สุดได้อีกด้วย หากมีข้อสงสัยอย่าข้ามไปนะครับ หยิบไปถามคุณครูผู้สอนในห้องเรียนด้วยเพื่อให้ความรู้เรากระจ่างมากที่สุด
  • จากแอพพลิเคชั่น มีด้วยเหรอ? มีสิครับ ลองค้นใน google playstore หรือ app store ค้นคำว่า CUTEP แอพฯ ที่เกี่ยวข้องกับ CU TEP ก็จะปรากฏกายให้คุณได้เลือกโหลดมาฝึกฝนวิชา ทั้งคำศัพท์ช่วยจำ แบบฝึกหัด กระทั่งเกมส์เสริมทักษะก็รวมตัวให้เราไปหยิบเลือกใช้กัน แน่นอนว่าภาษาในแอพฯ ภาษาไทยแน่นอน เพราะ CU TEP นั้นเป็นแบบทดสอบใช้เฉพาะคนไทยครับหรือการเรียนที่เป็นคอร์สออนไลน์ วีดีโอสอนใน Youtube.com ในช่องพี่ช่วยสอนน้อง ต่างๆ เหล่านี้นับเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีที่ช่วยเสริมความรู้ให้กับเราได้ทั้งนั้น เท่านี้คุณก็สามารถฝึกฝนเรียนรู้ CU-TEP ได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการ ทุกสิ่งทุกอย่างในปัจจุบันก็เอื้อต่อการเรียนรู้ให้แล้วเหลือสุดท้ายสิ่งเดียวคือวินัยในการฝึกฝนที่ต้องทำบ่อยๆ ท่องศัพท์บ่อยๆ ลองทำดูนะ
  • เรียนจากเวปไซต์ฟรี ที่ไหนดี ลองค้นหาประสบการณ์จากผู้สอบ CU TEP จากอินเตอร์เน็ตก็ช่วยได้เยอะ ช่วยให้คุณได้รับรู้ประโยชน์ของการสอบ การแชร์ความรู้ รวมถึงแนวข้อสอบเก่าๆ ก็มีนะ ลองดู

วิเคราะห์แนวข้อสอบ CU TEP กัน


การเรียน CU TEP ทำได้หลากหลายช่องทางแต่สำคัญที่สุดคือ ตัวคุณเองที่ต้องวางแผนเรียน ทำแบบฝึกหัด และมีวินัยในการฝึกฝนเป็นประจำ ขอให้สอบ CU TEP ผ่านทุกท่านครับ สำหรับแนวข้อสอบที่คุณควรวิเคราะห์ก่อนเริ่ม การเรียนที่ดีควรรู้จุดเป้าหมายในการสอบ ความต้องการที่ต้องใช้สอบเพื่อโฟกัสหาความเหมาะสม หากเราวิเคราะห์แนวข้อสอบมาเป็นตัวชี้วัดว่า เราควรจะเรียนโดยเน้นเนื้อหาในส่วนใด โดยหลักก็จะหนีไม่พ้น 3 แนวข้อสอบใหญ่นั่นคือ การฟัง Listening การอ่าน Reading และการเขียน Writing ที่เน้นการถามการใช้ Grammar ที่ถูกต้อง เพื่อให้เราเตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบ CU TEP ซึ่งจะบอกแนวทางการวิเคราะห์ข้อสอบ ให้ทราบแต่จะไม่เจาะลึก ซึ่งผู้เรียนยังคงต้องมีพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษที่เข้มข้น พื้นฐานการท่องคำศัพท์ที่จำเป็น วินัยในการเรียนที่เข้มงวดเพื่อให้เราเก่งได้ไว เก่งได้จริง แต่ไม่ต้องไปคร่ำเคร่งร้อนรนเพื่อที่จะให้ไวได้ดั่งใจ ลองมาดูกันคร่าวๆ ครับว่าแนวข้อสอบจะตรงกับที่เราเรียน CU TEP อยู่ไหม ไปดูกันครับ

  • วิเคราะห์ข้อสอบ CU TEP ภาคการฟัง Listening ข้อสอบ CU TEP จะแบ่งการสอบภาคการฟัง Listening ออกเป็น บทสนทนาสั้น Short Conversation 15 ข้อ บทสนทนาแบบยาว Long Conversation และสุดท้าย การคุยและการจด Talks and Lecture ซึ่งรวมกันแล้ว 30 ข้อ การสอบ CU TEP จะเน้นเสียงในสำเนียงอเมริกัน ดังนั้นการหาแนวข้อสอบเก่าจะเน้นไปที่สำเนียงอเมริกันเป็นหลัก ซึ่งแนวข้อสอบของ CU TEP จะคล้ายคลึงกับแนวข้อสอบ TOEFL แบบ PBT Paper-Based Testing จึงสามารถนำเอา PBT มาใช้ในการฝึกหัดของเราโดยการฟังเสียงสำเนียงในข้อสอบแนะนำให้ฟังแบบออกอากาศผ่านลำโพงจะดีกว่าการใช้หูฟัง ตอนสอบจริงเป็นการเปิดลำโพงให้ฟังทั้งห้องอาจได้ยินเสียงเบามาก ซึ่งควรฝึกให้คุ้นชินตั้งแต่ต้นเลยจะดีกว่า
  • วิเคราะห์ข้อสอบ CU TEP ภาคการอ่าน Reading ข้อสอบ CU TEP ภาคการอ่าน Reading จะมีจำนวนข้อสอบ 60 ข้อ แบ่งเป็น Cloze Test และ Passage ให้เวลา 70 นาทีในการทำ ข้อสอบการอ่านคือข้อสอบที่วัดว่าคุณรู้คำศัพท์ครอบคลุมข้อสอบแค่ไหน ดังนั้นยิ่งคุณเคยทำแนวข้อสอบเก่ามากเท่าไหร่ ขอให้คุณจดคำศัพท์จากแนวข้อสอบเก่าไปใช้ในการท่องคำศัพท์ของคุณก็จะช่วยให้คุณมีคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการสอบมากยิ่งขึ้นไปด้วย ในข้อสอบจะให้บทความยาวประมาณครึ่งหน้ากระดาษ A4 มาให้เราอ่านก่อนแล้วจะเว้นคำให้เราเลือกเติมลงไปถูกต้อง การที่คุณแม่นกฎไวยากรณ์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างความได้เปรียบให้กับคุณได้มากเพียงนั้นเลยล่ะ ในข้อสอบส่วนนี้เราสามารถใช้แนวข้อสอบ TOELF แบบ iBT ซึ่งจะมีลักษณะคำถามคำตอบคล้ายกัน แต่ iBT จะเป็นประโยคที่ยาวกว่า แต่ก็ใช้ซ้อมมือเสริมความรู้เพิ่มเติมได้เหมือนกันครับ
  • วิเคราะห์ข้อสอบ CU TEP ภาคการเขียน Writing ข้อสอบ CU TEP ภาคการเขียน Writing เป็นข้อสอบไวยากรณ์มีจำนวนข้อสอบ 30 ข้อ ให้เวลา 30 นาที ข้อสอบไวยากรณ์ของ CU TEP มีความคล้ายคลึงกับข้อสอบ Error ของ TOEFL iBT เช่นกัน

ควรหาเวลาฝึกฝนเป็นประจำทุกวันไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ชั่วโมงในการอ่านเตรียมตัวสอบ CU TEP เพื่อสร้างทักษะให้พร้อมในการเข้าสอบ CU TEP ที่คุณต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัด สามารถเข้าไปดูรายละเอียด เกี่ยวกับการสอบ CU TEP เพิ่มเติมได้โดยตรงที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กันอีกทางได้เลยครับ

เรียน CU TEP ที่ไหนดี คอร์สสอนสด เร่งรัดกับสถาบัน Acknowledge ด้วยทีมติวซึ่งเป็นครูคนไทยที่ชำนาญเฉพาะทาง สอนครบทั้ง 3 ส่วน ไม่ว่าจะเป็น Writing ,Reading และ Listening พร้อมแนวข้อสอบที่ตรงแนวข้อสอบ CU TEP สอนสด คลาสเล็ก ติวเข้าใจง่าย ดูแลทั่วถึง ซักถามได้ตลอด อีกทั้งยังมีการ ติว CU TEP ตัวต่อตัว ออนไลน์ และการเรียน ออนไซต์ สำหรับนักเรียนที่ต้องการเร่งผลคะแนนด้วยครับ