ข้อสอบ Listening : สามสิ่งที่คุณอาจทำผิดได้
คนส่วนใหญ่จะกังวลกับข้อสอบ Listening มากกว่าข้อสอบ Reading ซะอีก นั่นก็เป็นเพราะว่าเวลาคุณอ่าน คุณจะมีตัวหนังสือด้านหน้าให้คุณอ้างอิงและกลับไปอ่านใหม่ได้อีก
แต่เมื่อเวลาคุณฟัง มันจะหายไปเลยหากคุณฟังไม่ทัน และเพียงเพราะคุณแค่ได้ยินจากเครื่องอัดเสียงเพียงครั้งเดียวคุณไม่สามารถย้อนกลับไปฟังได้ใหม่ ฉะนั้นคุณต้องเตรียมตัวให้ดีหายุทธวิธีในการฟังล่วงหน้า
- จดโน้ตก่อนคุณฟัง
ลองจินตนาการว่าตอนที่คุณกำลังฟังคำตอบของข้อสามแล้วอยู่ๆคุณก็ได้ยินคำตอบของข้อที่หก นั่นหมายความว่าคุณกำลังจดจ่อกับคำถามข้อเดียวมากเกินไปทำให้คุณพลาดคำตอบอีกถึงสองข้อ
วิธีหนึ่งที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้คือจดโน้ตหรือข้อความสั้นๆลงบนข้อสอบขณะที่คุณกำลังฟัง อย่าคิดมากหากโน๊ตของคุณเลอะเทอะไม่เป็นระเบียบเพราะสิ่งที่สำคัญคือต้องทำให้ทัน ในช่วงสุดท้ายคุณจะมีเวลาสิบนาทีเพื่อกลับไปตอบคำถามในกระดาษคำตอบ (ซึ่งในเวลานั้นคุณต้องตอบให้เรียบร้อยและมีระเบียบ)
จุดสำคัญที่คุณจะทำได้ดีในข้อสอบ Listening นั่นคือทำให้เป็นสองขั้นตอน ขั้นแรกคือฟังและจดโน้ต จากนั้นขั้นที่สองย้ายคำตอบของคุณลงในกระดาษคำตอบ
2. ถูกต้องแม่นยำ
ในข้อสอบ Listening คุณต้องแม่นมากเวลาตอบคำถาม ตัวอย่างเช่น สมมติว่าข้อสอบบอกให้คุณเติมวลีให้สมบูรณ์ “in the….” และคำตอบคือ “morning” คุณจะได้คะแนนก็ต่อเมื่อคุณตอบแค่คำว่า “morning” เท่านั้น หากคุณเขียนว่า ‘the morning’ หรือ ‘in the morning’ คุณจะเสียคะแนนข้อนั้นทันที (ทั้งๆที่ความจริงคุณรู้คำตอบอยู่แล้ว) หากสงสัย ให้คาดเดา หากคุณไม่มั่นใจคำตอบ การคาดเดาเป็นสิ่งสำคัญ มีอยู่สองเหตุผลคือ
- คุณไม่เสียคะแนนหากตอบผิด ไม่มีความเสี่ยงเรียกได้ว่าไม่ได้ไม่เสีย
- แต่หากคุณไม่ตอบ มันอาจทำให้คุณเสียคะแนนได้ถึงแม้ว่าคุณอาจจะเขียนคำตอบที่ถูกต้องในช่องที่ผิด
สิ่งสุดท้ายคือ มั่นใจว่าในวันสอบจริงไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณทำข้อสอบ Listening พยายามฝึกทำอย่างน้อย 4-5 ครั้งล่วงหน้า
3. ช่วยฉันด้วย! ฉันไม่เข้าใจสำเนียง!
ปัญหา
IELTS เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษนานาชาติ ดังนั้นคุณอาจจะได้ยินสำเนียงภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย อังกฤษ นิวซีแลนด์ หรืแม้กระทั้งอเมริกาตอนเหนือ ให้จำไว้ว่าคุณจะได้ยินเครื่องเล่นเสียงเพียงครั้งเดียวเท่านั้นฉะนั้นคุณจะต้องมั่นใจอย่างเต็มร้อยว่าคุณสามารถเก็บทุกรายละเอียดตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง สำเนียงที่เราไม่คุ้นเคยอาจมีปัญหาได้แต่อย่างไรก็แล้วแต่อย่างน้อยคุณควรฝึกฟังสำเนียงมาตรฐานให้ได้
การแก้ปัญหา
‘เป็นที่รู้กันดีว่ามีกระบวนการเริ่มต้นเมื่อฟังการพูดจากสำเนียงหนึ่งมากกว่าสำเนียงของตัวเอง แต่ผลงานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าค่านี้จะลดลงเมื่อฟังสำเนียงที่คุ้นเคยจากสื่อมวลชนหลากหลายแขนง และ/หรือเมื่อมีคำโฆษณาแบบสั้นจากสำเนียงนั้น’
นี่หมายความว่า “คำโฆษณาแบบสั้น” จากสำเนียงที่คุ้นเคยจะช่วยให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ดังนั้นคุณควรใช้เวลาในการฟังภาษากลางจากสถานีวิทยุออนไลน์เพื่อเตรียมตัวในการทำข้อสอบนี้
ตัวอย่างเช่น:
- สถานีวิทยุ ABC จากออสเตรเลีย
- สถานีวิทยุ CBC จากแคนาดา
- สถานีวิทยุ BBC Radio 4 จากอังกฤษ
ไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะหาสื่ออื่นในการฝึกทักษะการฟังและคุณอาจรู้สึกว่ามันน่าสนใจกับการฟังสำเนียงแปลกๆอื่นอีกด้วย อย่างสำเนียงของเมืองหลุยเซียน่าหรือคาริบเบียน ความจริงแล้วคุณจะสนุกสนานกับการค้นหาสถานีวิทยุจากทั่วทุกมุมโลกด้วยเวบไซต์ tunein.com ได้ด้วยเช่นกัน
เคล็ดลับอีกอย่างคือการฝึกฟังเวทีทอล์คอย่าง TED talks ผู้พูดของ TED มาจากหลากหลายประเทศ และมักจะมีบทพูดอยู่ด้วยเสมอ คุณสามารถตรวจเช็คความแม่นยำในการฟังของคุณได้อีกด้วย นี่คือสามตัวอย่างจาก TED talks ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 20 อันดับแรก:
- Ken Robinson: How schools kill creativity (สำเนียงอังกฤษ)
- Amy Cuddy: Your body language shapes who you are (สำเนียงอเมริกาเหนือ)
- Pranav Mistry: The thrilling potential of SixthSense technology (สำเนียงอินเดีย)
Credit : blog.ieltspractice.com/