ป้ายกำกับ: เรียน SAT

เรียน SAT Math ฟรี ติว SAT Verbal ตัวต่อตัว ออนไลน์

Published / by Language Tutor

เรียน SAT Math Verbal ตัวต่อตัว ออนไลน์


เรียน SAT รับรองผล ทั้ง math และ critical readingเรียน SAT Math และ Verbal ที่ไหนดี ติวตัวต่อตัวออนไลน์ หรือเรียนคอร์สสอนสด ปูพื้นฐานตั้งแต่ต้น กับสถาบัน Acknowledge ด้วยประสบการณ์ติวที่มีมากว่า 10 ปี ในแต่ละปีเราสามารถส่งน้องๆเข้าจุฬา ธรรมศาสตร์ มหิดล ภาคอินเตอร์ได้เป็นจำนวนมาก ด้วยทีมอาจารย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง  ข้อสอบของ New SAT ในส่วนของคณิตศาสตร์นั้น ส่วนใหญ่จะอิงอยู่บนความรู้ของพื้นฐานคณิตศาสตร์ ม.ต้น ซึ่งผู้เรียนมักจะลืมไปแล้ว อย่างไรก็ตาม อาจจะมีเนื้อหาของเลข ม.ปลาย ผสมมาบ้าง เช่น เรื่องของกราฟ เป็นต้น ดังนั้น ในส่วนของคณิตศาสตร์ จะเน้นไปที่พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็นต้องรู้ประกอบกับ คำศัพท์เฉพาะที่น้องๆต้องจำได้ เพื่อที่จะได้แปลได้อย่างรวดเร็ว สำหรับส่วนของ Critical Reading นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะทีมครูของเราเตรียมศัพท์ไว้ให้ท่องอยู่แล้ว อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนนะจ๊ะ

*** ติว SAT Math ฟรี 6 ชั่วโมง ลงทะเบียนล่วงหน้า สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 083-5299395, 095-6082292 ***


 เรียน SAT Math Verbal คอร์สสอนสด รับรองผล


คอร์ส SAT สอนสด ติว SAT Math Verbal  ราคา 22,000 บาท 70 ชั่วโมง เรียนครบทั้งสองส่วน (เรียน SAT Math 35 ชั่วโมง และ Verbal Critical Reading 35 ชั่วโมง)

วันเริ่ม
เวลา
วัน
ประเภท
17 มีนาคม 2568 18.00 – 20.00 น. จันทร์ พุธ ศุกร์ ออนไลน์ 
15 มีนาคม 2568 09.00 – 16.00 น. เสาร์ อาทิตย์ สอนสด

หมายเหตุ 

  • น้องๆนักเรียนคนไหน หลังจากเรียนคอร์ส ติว SAT Math Verbal จบไปแล้ว (เข้าเรียนสม่ำเสมอ) หากคะแนน SAT Math ยังไม่ถึง 650 คะแนน ทางสถาบันจะ ติว SAT Math ตัวต่อตัว ให้ฟรีเพิ่มเติมอีก 6 ชั่วโมง เพื่อมาเก็บตกข้อผิดพลาด และนำไปปรับปรุงแก้ไขและเปลี่ยนแปลง คะแนนให้ดียิ่งขึ้น หรือนำข้อสอบที่น้องๆนักเรียนได้เจอในห้องสอบมาซักถามข้อสงสัยเพิ่มเติม
  • นอกเหนือจากการเรียนแบบคอร์สรวมแล้ว หากน้องๆคนไหนมีเวลาว่างไม่ตรงกับที่สถาบันจัดเวลาไว้ น้องนักเรียนสามารถเลือกเรียน SAT แบบตัวต่อตัว ออนไลน์ ได้นะครับ โดยทีมอาจารย์ผู้สอน และชีทเรียนก็จะเป็นทีมชุดเดียวกับที่สอนเป็นคอร์ส
  • ในกรณีเปิดคอร์สเรียบร้อยแล้ว ทางสถาบันขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินในทุกกรณี
  • ในกรณีดรอปคอร์ส (พักการเรียน) นักเรียนจะต้องชำระค่าดรอปคอร์ส 1,500 บาท

 


คอร์ส เรียน SAT Math Verbal  – ติว SAT ตัวต่อตัว เหมาะกับใคร?


สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก็คือ ปกติแล้ว จากประสบการณ์การสอนของอาจารย์ของสถาบันเรา จะพบว่านักเรียนที่เข้ามาขอคำปรึกษาการติว SAT กับสถาบันจะมีนักเรียนอยู่สองแบบคือ

  • นักเรียนที่เรียนจากโรงเรียนอินเตอร์จริงๆ ด้วยสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยกับการเรียนกับอาจารย์ฝรั่ง และส่วนใหญ่เข้าเรียนมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งบางคนอาจจะเป็นน้องๆคนไทย หรือบางคนก็เป็นลูกครึ่ง โดยปัญหาที่จะพบได้บ่อยคือ น้องๆจะไม่คุ้นเคยกับการสื่อสารภาษาไทยในเชิงวิชาการ เช่น สามเหลี่ยมหน้าจั่ว จะมีมุมที่ฐานทั้งสองข้างเท่ากัน และส่วนใหญ่จะมีปัญหาคล้ายๆกันคือ น้องๆไม่ชอบ ไม่ถนัดในการ เรียน SAT Math ในขณะที่ การติว SAT Critical Reading มักจะประสบปัญหาเรื่องของหลักการของไวยากรณ์
  • นักเรียนที่มาจากโรงเรียนไทยโดยธรรมชาติ แต่ต้องการที่จะเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยในคณะที่เป็นอินเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นวิศวะอินเตอร์ จุฬา – ธรรมศาสตร์ สถาปัตย์อินเตอร์ จุฬา และคณะอื่นๆ ที่ปัจจุบันมีหลายสถาบัน หลายมหาวิทยาลัยที่เปิดการเรียนการสอนในระบบอินเตอร์ น้องๆนักเรียนในส่วนของนักเรียนไทยนั้น จะมีความชำนาญในการ เรียน SAT Math เป็นอย่างมาก เพราะถ้าเทียบเนื้อหาแล้ว เนื้อหาของ SAT Math ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในเนื้อหาของ ม.ต้น ของโรงเรียนไทย มีบางส่วนเล็กน้อย อาจจะต้องใช้พื้นฐานของเนื้อหาของคณิตศาสตร์ ม.ปลาย แต่ในทางตรงกันข้ามคือ น้องๆนักเรียนไทยจะมีปัญหาในการ ติว SAT Critical Reading ค่อนข้างมาก โดยมักจะจำศัพท์ไม่ได้ และอ่านไม่รู้เรื่อง SAT Critical Reading นอกจากการอ่านให้เข้าใจแล้ว ยังต้องมาตีความด้านความรู้สึกกันอีก ว่าคนแต่งมีความรู้สึกอย่างไร ถึงเขียนบทความออกมาแบบนั้น

เมื่อมาถึงจุดนี้ กระผม(อาจารย์ที่รับผิดชอบในการ ติว SAT Math) ต้องการจะสื่อสารว่า ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่มาจากแหล่งที่มาใด ก็มักจะมีปัญหาคล้ายๆกัน ไม่มีนักเรียนคนไหนจะได้เปรียบกันซักเท่าใด ทางสถาบันมีความยินดีในการรับฟังปัญหาของผู้ปกครองแต่ละท่าน ขอให้ผู้ปกครองทุกท่านมีความสบายใจในการโทรหาแอดมินของสถาบัน และทางแอดมินจะมีการโอนสายติดต่อปัญหา ให้ผู้ปกครองคุยปัญหากับ ครูผู้สอนได้โดยตรง

สรุปแล้วคอร์ส เรียน SAT Math Verbal  – ติว SAT ตัวต่อตัว เหมาะกับใครกันล่ะ

  • หากน้องๆนักเรียนมีพื้นฐานไม่ดี แนะนำให้ เรียน SAT ในเชิงปูพื้นฐานไปก่อนซักระยะ ( ติว SAT ตัวต่อตัว ออนไลน์) จากนั้นครูอาจจะแนะนำให้ไป เรียน SAT แบบคอร์สเรียนรวม แต่หากน้องไม่ไหวจริงๆ ครูผู้สอนอาจจะแนะนำไปในทางอื่น และเมื่อติว SAT ไประยะหนึ่ง ครูผู้สอนก็สามารถแนะนำกับผู้ปกครองได้ว่า น้องเหมาะกับการเรียนอินเตอร์ ในอนาคตหรือไม่ ซึ่งทางสถาบันจะวิเคราะห์ตรงไปตรงมา การดึงดันให้น้องๆเรียนในสิ่งที่ไม่ถนัดอาจจะเป็นผลเสียในอนาคต
  • เรียน SAT คอร์สรวม โดยคอร์สที่สถาบันเปิดจะเป็นคอร์สที่เน้นลงไปที่ผู้มีความรู้ในระดับกลางขึ้นไป โดยเนื้อหาการสอนของสถาบัน จะครอบคลุมเนื้อหาที่น้องจะต้องสอบ เป็นคอร์สที่ใช้เวลาเรียนค่อนข้างนาน ความสำเร็จต้องใช้เวลาครับ

Tips เล็กๆน้อยๆ ที่มักจะได้ผล


ตัวผมเองซึ่งเป็นครูที่รับผิดชอบโดยตรงในการ ติว SAT Math โดยผมจะรับผิดชอบในการ ติว SAT Math ฟรี ตัวต่อตัว onsite และ สอนในคอร์สเรียนรวม ของสถาบัน จะมาแนะนำ เทคนิคเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจริงๆแล้ว SAT Math มีเทคนิคเยอะ แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ด้วยการพิมพ์

นอกจากการเตรียมการและฝึกฝนเพื่อเข้าทำการสอบ SAT แล้วนั้น สิ่งสำคัญคือเทคนิคกลยุทธ์ในตอนทำข้อสอบ หลายๆครั้งที่เรามักเรียบเรียงเวลาและการทำข้อสอบไม่ได้ บางครั้งก็อาจจะละเลยบางจุดจนอาจทำให้พลาดคะแนนสำคัญ วันนี้เรามีกลยุทธ์การในการทำข้อสอบ SAT ทำอย่างไรให้รวดเร็ว ประหยัดเวลา และไม่ทำให้เสียเวลามากที่สุดรวมไปถึงเป็นที่มาของคะแนนที่เราพึงพอใจด้วย

0. โจทย์ยาวไปไหม

หากนักเรียนคุ้นเคยการทำข้อสอบ SAT Math จะมีโจทย์บางประเภทที่ยาวมาก บางครั้ง โจทย์หนึ่งหน้ากระดาษเต็มๆ ผมแนะนำว่าให้รีบข้าม เพราะแค่อ่านก็เสียเวลาแล้ว แม้ว่าจากประสบการณ์ของผมมักจะพบว่าโจทย์ยาว ส่วนใหญ่มักจะง่ายก็ตาม

1. โฟกัสในสิ่งที่เราถนัด VS. โฟกัสในเนื้อหาที่โจท์ออกเยอะ

จากประสบการณ์ ติว SAT Math ของผมนั้นจะเห็นได้ว่า สิ่งที่น้องๆนักเรียนไม่ถนัด ข้อสอบมักจะออกเยอะ เช่นในหัวข้อ Graph น้องๆไม่ชอบเกี่ยวกับเรื่องกราฟเลย แต่กลับออกเยอะ บางครั้งออกเกือบสิบข้อ และมักจะวนไปวนมาในหัวข้อ พาราโบลา วงกลม วนไปวนมาอยู่แค่นี้ ในทางตรงกันข้าม นักเรียนที่ชอบเกี่ยวกับเรื่องพื้นที่รูปทรง บางครั้งกลับออกน้อย (2-3 ข้อ) ดังนั้นในเวลาสอนในห้อง คอร์ส เรียน SAT Math ที่ผมสอนนั้น ผมจำเป็นต้องปรับทัศนคติของนักเรียนให้ไปสนใจในสิ่งที่ข้อสอบออกเยอะ เพราะเราสามารถเก็บคะแนนได้ในเวลาที่รวดเร็ว

2. เทคนิดง่ายๆโดยการเอาตัวเลขเข้าไปสวม

เทคนิคนี้ใช้ได้บ่อยมากๆ หากนักเรียนคนไหนเคย เรียน SAT Math กับผมให้คอร์ส ผมจะพูดเทคนิคนี้ประจำ (รายละเอียดยังมีอีกมาก) เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ดี และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เก็บคะแนนได้จริง และจะทำให้เซฟเวลาได้อย่างมาก หากเข้าใจถึงวิธีการนำไปใช้จริง ซึ่งแม้ว่า กลยุทธ์วิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาของคำตอบที่ถูกในการทำข้อสอบ ในเวลาที่คุณอ่านโจทย์หรือคำถามและทำการวิเคราะห์แล้วนั้น ให้คุณเลือกคำตอบที่ดูเป็นไปไม่ได้ ไม่มีหลักฐานอ้างอิง และไม่เกี่ยวข้องกับคำถามออกไปก่อน ตัดออกไปเลย เช่นเดียวกับในส่วนของการสอบคณิตศาสตร์ถ้าคุณมีคำตอบที่ถูกต้องโดยประมาณคุณสามารถกำจัดคำตอบที่ไม่ใกล้เคียงกับค่าประมาณของคุณ บางครั้งตัวโจทย์สามารถใช้ความเป็นจริงเข้ามาช่วยได้ เช่น

การขับรถระยะทางทั้งสิ้น 100 ไมล์ ซึ่งจะต้องใช้น้ำมัน 4 แกลลอน

ราคาน้ำมันแกลลอนละ 5 เหรียญ หากต้องการลดปริมาณค่าใช้จ่ายลง 4 เหรียญ จะต้องขับรถลดลงกี่ไมล์  

 

สิ่งสำคัญคือการประมาณค่าที่จะต้องใช้ Sense กันได้ นั่นคือ ค่าใช้จ่ายจริง 20 เหรียญ แต่ต้องการลดค่าใช้จ่ายลง 4 (ซึ่งก็คือ หนึ่งในห้า) และแน่นอนว่า ระยะทางก็ต้องลดลงไปหนึ่งในห้าด้วย ดังนั้นเราควรจะหาตัวเลือกที่น้อยๆ (ที่เป็นหนึ่งในห้าของ 100 นั่นเอง) คราวนี้หากเปลี่ยนโจทย์ข้อนี้ใหม่เป็น

การขับรถระยะทางทั้งสิ้น m ไมล์ ซึ่งจะต้องใช้น้ำมัน m แกลลอน ราคาน้ำมันแกลลอนละ d เหรียญ หากต้องการลดปริมาณค่าใช้จ่ายลง p เหรียญ จะต้องขับรถลดลงกี่ไมล์

จะเห็นได้ว่า เราจะรู้สึกว่ามันยากเป็นหนักหนา เพราะตัวแปรเพียบเลย แต่เราเข้าใจวิธีการประมาณค่าข้างต้นมาแล้ว คราวนี้เราจะใช้อีกเทคนิคหนึ่ง เราจะเรียกเทคนิคนี้ว่า จับตัวเลขเข้าสวม นั่นก็คือ การสมมติตัวเลขลงสวม แล้วก็ดูความเป็นไปของตัวเลข (จะเอาตัวเลขจากข้างบนลงมาสวมก็ได้)

ถ้าคุณรู้ว่าคำตอบเป็นบวกคุณสามารถกำจัดคำตอบที่เป็นตัวเลขเชิงลบได้ การคัดคำตอบที่ไม่ถูกต้องออกไปจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับคำถามที่ถูกต้องและช่วยให้คุณได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดนั่นเอง อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะสังเกตได้บ่อยๆคือ หากโจทย์เลขกำหนดมาว่าคำตอบเป็น integer หรือจำนวนเต็ม เราสามารถสุ่มแทนค่าลงไปในสมการตั้งต้นก็เป็นได้เทคนิคอื่นๆ ตั้งตั้งข้อ 3 เป็นต้นไปเป็นเทคนิคทั่วๆไป ข้ามไป ไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่เนื่องด้วยพื้นที่สื่อสารมีจำกัด แอดมินต้องการสื่อสารว่ายังมีเทคนิคของการ ติว SAT Math อยู่อีกมากๆๆ เนื่องด้วยประสบการณ์การสอน SAT Math มากว่า 25 ปี เจอโจทย์มาทุกๆรูปแบบครับ


เทคนิค SAT Math (ต่อ)


ติว SAT Math ฟรี คอร์สเล็ก

เทคนิคการสอบอีกอย่างหนึ่งสำหรับการ ติว SAT ก็จำเป็นที่ต้องมีความรู้และเข้าใจในพื้นฐานคณิตศาสตร์ให้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะทำให้การทำทดสอบ SAT ของคุณผ่านไปอย่างดีนั่นเอง วันนี้เรามีเทคนิคการทำติวคณิตศาสตร์สำหรับสอบ SATในขั้นพื้นฐานมาฝากกัน เพื่อที่จะได้นำไปเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังศึกษา ทำความเข้าใจและเตรียมตัวที่จะสอบ SAT อยู่ เราไปดูกันเลยว่ามีเทคนิคแบบไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

 

 

1.มุ่งเน้นในการเติมช่องว่างเนื้อหาก่อนในอันดับแรก

ถ้าหากคุณว่ามีปัญหาที่เกี่ยวกับทักษะความรู้ขั้นพื้นฐานของการของคณิตศาสตร์ ที่ไม่ว่าคุณจะฝึกการทำโจทย์และคำถามคณิตศาสตร์มามากเท่าไหร่ ก็ไม่อาจที่จะตีโจทย์ออกมาได้ วิธีการแก้ไขก็คือ อันดับแรก คุณจะต้องศึกษาอย่างเจาะลึกเพื่อดูปัญหาของโจทย์และการวิเคราะห์ ถ้าหากว่าคุณสังเกตว่าคุณไม่สามารถที่เรียนรู้หรือติว Sat ได้นั้น เนื่องจากอึดอัดและไม่อยากที่จะฝึกฝน เพราะคุณไม่สามารถตีโจทย์ได้ คุณก็ลองใช้วิธีการมุ่งเน้นในการเติมช่องว่างเนื้อหาก่อนในอันดับแรก เพื่อที่จะทำให้การทำข้อสอบของคุณง่ายมากขึ้นนั่นเอง

2.ทำความเข้าใจกับโจทย์ที่คุณทำพลาดไปก่อนที่จะดูคำอธิบาย

การทำความเข้าใจกับโจทย์ที่คุณทำพลาดไปก่อนที่จะดูคำอธิบายกับคำตอบ เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจวิธีแก้ปัญหา ในเวลาที่คุณทำข้อสอบหรือแบบทดสอบผิดพลาดอย่างดีที่สุด เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องอ่านคำอธิบายคำตอบและพูดว่า “จุดนี่ไง ที่เราทำพลาดไป จุดนี้ไงที่เราจะเป็นวิธีการหาข้อคำตอบที่ถูกต้องของเรา”  การแก้ปัญหาด้วยวิธีการนี้จะทำให้คุณสามารถที่จะรู้คำตอบอย่างไม่ต้องปวดหัวเลยทีเดียว และสามารถได้คำตอบที่ถูกต้องสำหรับข้อสอบหรือคำถามที่คุณทำพลาดไปด้วย  ไม่ใช่แค่อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูว่าคำตอบของคำตอบที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไรและลองไปที่นั่นก่อนที่คุณจะอ่านคำอธิบาย

3. ให้มุ่งเน้นไปที่ส่วนสำคัญของคำถาม

คุณควรที่ใช้เคล็ดลับนี้ในการคำนวณส่วนของการทำข้อสอบคณิตศาสตร์ ในเวลาที่คุณพลาดคำถามโดยไม่ตั้งใจในการแก้ค่าที่ไม่ถูกต้อง เน้นสิ่งที่คุณต้องการค้นหาในคำถามเพื่อให้คุณไม่สับสนระหว่างกระบวนการคำนวณ บางครั้งคำถามคณิตศาสตร์ขอให้คุณแก้ปัญหาสำหรับค่าที่จำเป็นสำหรับการแก้ปัญหาเพื่อสิ่งอื่นๆไปพร้อมกัน แต่คุณมักจะโฟกัสผิดจุด โดยที่ไม่ได้มุ่งเน้นไปส่วนสำคัญ นักศึกษาหลายคนบังเอิญเลือกคำตอบที่ผิดพลาดแทนที่จะขีดเส้นโฟกัสในส่วนสำคัญของคำถามหรือเนื้อหาข้อสอบแทน

4.จดจำสูตรให้มากที่สุด

เด็กนักเรียนส่วนใหญ่มักจะพึ่งพาสูตรที่ข้อสอบให้มาในตอนต้นของข้อสอบ นั่นหมายถึงจะทำให้เด็กคิดว่า เดี๋ยวค่อยเปิดหาเมื่อเวลาเจอข้อสอบ ความคิดนี้ผิดถนัดเพราะ มันจะทำให้ช้าขึ้นมาก การจำสูตรพื้นฐานของพื้นที่ของรูปทรงต่างๆ รวมถึงปริมาตรนั้นทำได้ไม่ยากเลย ในขั้นตอนพื้นฐานของการทำข้อสอบคณิตศาสตร์ในการสอบ SAT นั้นคุณจะต้องฝึกฝนและใช้เวลาในการจดจำสูตรให้มากที่ ให้คุณท่องจำในส่วนของสูตรคณิตศาสตร์ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น สูตรพื้นฐาน สูตรสำคัญ หลังจากนั้นก็ไปศึกษาโจทย์ที่สามารถนำมาใช้ประยุกต์กันได้ การที่คุณรู้จักการท่องจำและสามารถที่จะจดจำสูตรให้ได้มากที่สุดนั้น จะทำให้คุณสามารถที่จะทำข้อสอบได้อย่างง่ายดายมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากคุณไม่ได้มีพื้นฐานในด้านคณิตศาสตร์อย่างชำนาญมากนั้น ให้คุณลองใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปกับการจดจำสูตรและอ่านแนวข้อสอบต่างๆ ไปด้วย ทำความเข้าใจว่าทำไมสูตรนี้ ถึงต้องใช้กับโจทย์ข้อนี้ ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้การทำข้อสอบของคุณเต็มไปด้วยศักยภาพและนำมาซึ่งคะแนนที่มีคุณภาพและดีที่สุดนั่นเอง


ปัญหาที่พบได้บ่อยของการ เรียน SAT Math


จากประสบการณ์ ติว SAT Math มายาวนาน ด้วยการรับผิดชอบการสอนในคอร์ส ติว SAT ฟรี คอร์สเรียนรวม หรือแม้กระทั่งการเรียนตัวต่อตัว ออนไลน์ จะมีปํญหาอย่างหนึ่งที่มักจะเจอเหมือนๆกัน โดยเฉพาะนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนอินเตอร์นั่นคือ การพึ่งพาเครื่องคิดเลข

การพึ่งพาเครื่องคิดเลขจะเห็นได้มากทีเดียวสำหรับนักเรียนที่เรียนภาคอินเตอร์มาตั้งแต่เด็ก นั่นคือ ไม่ว่าตัวเลขจะเป็นอย่างไร ง่ายแค่ไหน ก็ต้องคว้าเครื่องคิดเลขมากดจนเป็นนิสัย สิ่งที่ต้องการสื่อคือ ในการทำแบบฝึกหัดให้เราพยายามที่จะคิดมือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เราจะรู้ได้ตัวเองว่าข้อไหนคิดมือเร็วกว่า หรือใช้เครื่องคิดเลขเร็วกว่า เมื่อถึงจุดนั้นเราจะใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว การคิดมืออีกประการหนึ่งมีข้อดีมากๆคือช่วยฝึกให้เราสามารถประมาณค่าและกาช๊อยส์ได้ทันที สำหรับน้องที่มีความชำนาญในการคิดมือแล้ว

นี่ก็เป็น เทคนิคการทำติวคณิตศาสตร์สำหรับสอบ SAT ที่จะทำให้คุณได้มีพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็น มุ่งเน้นในการเติมช่องว่างเนื้อหาก่อนในอันดับแรก,ทำความเข้าใจกับโจทย์ที่คุณทำพลาดไปก่อนที่จะดูคำอธิบายกับคำตอบ ให้มุ่งเน้นไปที่ส่วนสำคัญของคำถาม และอย่าลืมมุ่งเน้นไปที่การจดจำสูตรให้มากที่สุด สิ่งเหล่านี้จะเป็นเทคนิคที่จะทำให้คุณสามารถทำข้อสอบได้อย่างรวดเร็ว เสร็จทันเวลาอย่างมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด อีกทั้งยังเป็นวิธีการฝึกที่สามารถติดตัวคุณไปใช้ตลอดวิชาชีพแม้จะไม่ได้ทำการทดสอบ SAT ก็ตาม อย่าลืมนำไปใช้ควบคู่ไปกับฝึกฝนเยอะๆ อ่านหนังสือ  กันอย่างเป็นประจำ เพื่อที่จะช่วยเพิ่มทักษะทางคณิตศาสตร์ให้คุณมากยิ่งขึ้นนั่นเอง


เทคนิดยิบย่อย ที่ไม่ต้องใส่ใจ


1.เลือกตอบคำถามที่เรามั่นใจก่อน

คุณควรเรียบเรียงเวลาและเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดในหนึ่งคำถาม โดยกะเวลาให้ได้ภายในที่กำหนด คุณอาจจะไม่ทำข้อสอบแบบเรียบเรียงตามชุดเลย แต่ให้เลือกทำข้อสอบที่คุณคิดว่าคุณทำได้ก่อน ส่วนไหนที่ง่ายต่อการทำ ส่วนไหนที่ง่ายต่อการหาคำตอบ เลือกคำตอบที่หลักฐานอ้างอิงชัดเจนมากที่สุด ลองทำในส่วนที่คุณเข้าใจก่อน และข้ามในคำถามที่ยากต่อการตัดสินใจ อย่าฝืนเพ่งพินิจที่จะทำต่อ เพราะอาจจะทำให้เกิดความสับสน ปวดหัว และตึงเครียดขึ้นมาได้ จนไม่สามารถที่จะทำในข้ออื่นๆต่อไปได้

2.ขีดเส้นใต้ในส่วนสำคัญของคำถาม

เมื่อคุณเจอโจทย์หรือคำถามที่ยากนั้น ลองขีดเส้นใต้คำสำคัญในคำถาม เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถที่จะตีโจทย์ได้ รู้ว่าคำถามคืออะไร ต้องการอะไร โดยที่ไม่ควรจะละเลยที่จะวิเคราะห์ในส่วนนี้ ยกตัวอย่างเช่น การเช็คคำถามในโจทย์ ของส่วนคณิตศาสตร์ ขีดเส้นใต้ประโยคที่ไม่เข้าใจเอาไว้ หรือในส่วนของการเขียนเรียงความ ที่คุณควรจะเน้นหรือวิเคราะห์หัวข้อโจทย์ที่ได้มาให้ได้ก่อน เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าคุณควรที่เรียบเรียงประโยคต่างๆอย่างไร และเพื่อที่จะจัดการลบประโยคที่คุณไม่มั่นใจออกไปด้วย รวมไปถึงการเพิ่มเนื้อหาสำคัญเพิ่มเติมจากการไตร่ตรองวิเคราะห์หัวข้อนั่นเอง

3.จบการทำข้อสอบทุกส่วนด้วยการตรวจสอบซ้ำอีกรอบ

คุณควรพยายามเหลือเวลา 5 นาทีในการทำข้อสอบแต่ละส่วน และหลังจากนั้นให้คุณตรวจสอบคำถามที่คุณไม่แน่ใจ แนะนำให้คุณลองทำเครื่องหมายเอาไว้ในข้อสอบที่คุณไม่เข้าใจระหว่างการทำ และหลังจากนั้น คุณก็กลับมาลงคำตอบใหม่อีกรอบหนึ่ง จบการทำข้อสอบทุกส่วนด้วยการตรวจสอบซ้ำอีกรอบ  เพื่อที่จะทำการตรวจสอบคำตอบของคุณเป็นอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ เพื่อที่จะเพิ่มความมั่นใจให้คุณมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการตรวจสอบเพิ่มเติมในกรณีที่คุณตัดสินใจพลาดไปด้วย เพื่อที่จะได้แก้ไขให้ทันเวลา

นี่ก็เป็นกลยุทธ์การในการทำข้อสอบ SAT ที่จะทำให้คุณสามารถทำข้อสอบด้วยคะแนนที่ดีได้ โดยถูกต้องมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการ เลือกตอบคำถามที่เรามั่นใจก่อน,ขีดเส้นใต้ในส่วนสำคัญของคำถาม,คัดคำตอบที่ไม่ถูกต้องออกไป และจบการทำข้อสอบทุกส่วนด้วยการตรวจสอบซ้ำอีกรอบ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณได้ทบทวนและรู้หลักเกณฑ์ในการทำข้อสอบต่างๆ นอกจากนี้คุณควรฝึกซ้อมให้ดีในการทำข้อสอบ ฝึกฝนการอ่านหนังสือ ทดลองเขียนในส่วนของ Writing รวมไปถึงการจดจำสูตรส่วนคณิตศาสตร์ ทดลองทำข้อสอบบ่อยๆให้มากที่สุดเพื่อให้เกิดความคุ้นชิน อย่าลืมลองจับเวลาในการฝึกทำข้อสอบด้วยว่าทำได้ไปถึงส่วนไหนแล้ว เพื่อที่จะทำให้คุณได้เตรียมตัวให้พร้อมกับการทำข้อสอบแข่งกับเวลาในสนามสอบจริง อีกทั้งคืนก่อนวันสอบ อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ต่างๆใส่กระเป๋าให้พร้อม เอกสารส่วนตัว ขนมและน้ำระหว่างรอการสอบ เพื่อที่จะทำให้คุณไม่ได้ตึงเครียดและวุ่นวายก่อนเข้าสอบ อีกทั้งอย่าลืมเตรียมจิตใจให้สดใส สมองโล่งๆ เพื่อการทำข้อสอบที่ไม่ต้องกดดัน และผ่านไปด้วยดีนั่นเอง


SAT คือ อะไร?


ท่านอาจไม่รู้จัก SAT ก็ขอให้เข้าใจว่าหากเทียบต่างประเทศกับบ้านเราแล้ว การสอบ SAT ก็ไม่ต่างจากการสอบ Admission ในไทยนั่นเอง ผู้สอบจำเป็นต้องแนบคะแนนสอบ SAT เพื่อใช้ยื่นเข้ารับการศึกษาต่อกับทางมหาวิทยาลัยที่ผู้สอบสนใจ ดังนั้นจึงควรศึกษาเกณฑ์คะแนนที่แต่ละมหาวิทยาลัย และคณะที่สนใจว่าต้องใช้คะแนนส่วนไหนเป็นสำคัญยิ่งเดือนมีนาคม ปี 2016 จะมีการเปลี่ยนข้อสอบ SAT ในประเทศอเมริกาเป็น Redesigned SAT หรือข้อสอบแบบใหม่ที่ปรับปรุงขึ้นนั่นเอง และจะมีผลกับการทดสอบในประเทศไทยทั้งหมดเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2016 จึงควรทราบถึงรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่ทดสอบทักษะสามด้าน 3 บททดสอบ ปรับเป็นทักษะ 3 ด้านแต่ 2 บททดสอบดังนี้

  • แบบทดสอบ SAT ส่วนของ Passage-based Reading & Writing Testการทดสอบความพร้อมทางความรู้ SAT ในส่วนของความพร้อมด้านการเขียนภาษาอังกฤษ Writing และความพร้อมด้านการอ่านเอาใจความในข้อสอบ Critical Reading ที่มีความยาวและค่อนข้างยากพอสมควรได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบทดสอบ Passage-based Reading & Writing Test ดังนั้นการหมั่นฝึกทักษะทั้งการท่องจำศัพท์  ไวยากรณ์ และการฝึกแบบทดสอบทางด้านภาษาอังกฤษยังคงมีความจำเป็นอยู่นะครับ ในแบบทดสอบใหม่นี้ Reading และ Writing ถูกมัดรวมอยู่ในชุดเดียวกันแต่ไม่รวม essay ดังนั้นหากประสงค์จะยื่นผลคะแนน essay จะต้องเป็นการสอบแยกต่างหาก แบบทดสอบถูกแก้ไขในส่วนของ Reading จะมีการเปลี่ยนชุดคำศัพท์จากเดิมที่ค่อนข้างยาก บางทีก็ไม่มีชุดคำศัพท์ในบทความที่ยกมาให้อ่านเลย แบบทดสอบถูกปรับให้เป็นคำศัพท์ที่พบเจอได้โดยทั่วไปและเกี่ยวข้องกับบทความที่ใช้ในการถามเสมอ และมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ Writing จะเป็นคำถามเกี่ยวกับไวยากรณ์ grammar ที่ปรากฏอยู่ในบทความเสมอเช่นกัน โดยบททดสอบจะมีตัวเลือกให้เลือก แต่ตัวเลือกจะลดลงจาก 5 เหลือ 4 ตัวเลือกเท่านั้น หากคุณกำลังมองหาที่เรียน SAT ลองสอบถามผู้สอนว่ารู้ถึงข้อมูลอัพเดตเหล่านี้แล้วหรือไม่ประกอบการเลือกสถานศึกษาด้วยนะครับ
  • แบบทดสอบ SAT ส่วนของ Math Testการทดสอบความพร้อมทางความรู้ SAT ในส่วนของความพร้อมด้านคณิตศาสตร์ Math จากเดิมที่จะประกอบไปด้วยข้อสอบที่ใช้ในการทดสอบความพร้อมวิชาคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษสลับกันเป็นส่วนๆ แบ่งออกเป็นหลาย section ถูกปรับใหม่ให้แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ ส่วนที่ใช้เครื่องคิดเลขได้ และส่วนที่ใช้เครื่องคิดเลขไม่ได้ แบบทดสอบจะมีโจทย์ที่ยาวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ซึ่งถูกออกแบบให้เน้นการคิดวิเคราะห์ และคำนวณไปในตัว ตัวเลือกจากเดิมที่มี 5 ตัวเลือกถูกลดลงเหลือ 4 ตัวเลือกเหมือนกันกับแบบทดสอบภาษาอังกฤษเช่นกัน

การสอบ SAT เป็นการสอบเพื่อวัดระดับมาตรฐานเพื่อเข้าศึกษาต่อต่างประเทศ (โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา) เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษแบบมาตรฐานที่ใช้ข้อสอบชุดเดียวกับสอบทั่วโลก ดังนั้นจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นการสอบที่เป็นสากล ผู้สอบทุกคนจะได้รับการวัดผลจากมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้นผู้สนใจที่จะศึกษาต่อที่ผ่านการทดสอบนี้จึงสามารถเข้าเรียนต่อในต่างประเทศได้ ในประเทศไทยของเราก็มีผู้ที่สนใจไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และจะต้องผ่านการทดสอบนี้เสียก่อน การติวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีความจำเป็น เพื่อเรียนในวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสอบให้เกิดความพร้อมที่จะเข้ารับการวัดระดับความรู้ความเข้าใจ ซึ่งก็มีทั้งในเรื่องของภาษาและการคำนวณเป็นหลัก และมีสามขาวิชาอื่นที่ถนัดให้เลือกอีกด้วย แต่… นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมในด้านทักษะวิชาการและภาษาแล้ว เรายังต้องมีการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสอบในด้านอื่นๆ ด้วย เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมในการเข้าสอบได้อย่างเหมาะสม


สิ่งที่ควรทราบในเรื่องการสอบ SAT


1. การสอบ SAT ได้รับการพัฒนาและดูแลด้วยองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรในสหรัฐฯ ชื่อ The College Board

2. การสมัครสอบ SAT สามารถทำได้โดยการสมัครออนไลน์ที่ https://sat.collegeboard.org/home เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น โดยผู้สมัครจะต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ก่อน จึงจะสามารถสมัครสอบได้ ข้อดีของการสมัครและทำรายการผ่านเว็บไซต์ก็คือ เราสามารถเข้ามาทำรายการได้ด้วยตัวเอง และสามารถตรวจสอบดูข้อมูลในการสอบย้อนหลังของเราได้ และ ทำการสมัครเพียงครั้งเดียว

3. การกรอกข้อมูลในเว็บไซต์จะต้องเป็นข้อมูลจริงเท่านั้น อย่าใช้ข้อมูลเท็จแบบใส่ๆ ไปก่อน แล้วค่อยมาแก้ เพราะจะมีการตรวจสอบความถูกต้อง หากพบว่าเป็นข้อมูลเท็จจะส่งผลเสียต่อเราเอง ดังนั้น เตรียมความพร้อมให้ดีก่อนสมัครและกรอกข้อมูล

4. การสอบ SAT เปิดให้มีการสอบปีละ 5 ครั้ง โดยประมาณ ดังนั้น เรามีเวลาในการ เตรียมตัวเพื่อให้ตัวเองมีความพร้อมมากที่สุดก่อนสอบได้ ไม่ต้องเร่งรีบจนกดดันตัวเอง เข้าสอบในเวลาที่ไม่พร้อม เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดโอกาสที่นานๆ มีที หรือต้องรอเป็นเวลานานกว่าจะมีการสอบใหม่อีกครั้ง การสอบจะมีขึ้นในเดือน มกราคม, มีนาคม, พฤษภาคม, มิถุนายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม ซึ่งผู้สมัครสามารถเข้าดูตารางกำหนดการในการสอบได้จากเว็บไซต์ของ The College Board

5. การสมัครสอบใช้บัตรประชาชนและหนังสือเดินทางของผู้สมัครเท่านั้น ส่วนการชำระเงินค่าสมัครสอบชำระโดยการใช้บัตรเครดิต ซึ่งจะเป็นบัตรของใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นของผู้สมัครสอบ

6. การสอบวิชาเสริม หรือ Subject Test ซึ่งเราจะต้องเลือกว่าเราชอบและถนัดวิชาไหนเพื่อที่จะได้ ติว SAT ไปพร้อมๆ กับเรื่องภาษาและคณิตศาสตร์ที่เป็นวิชาหลัก ในการสอบเราจะต้องเลือกดูด้วยว่าวันที่สอบมีการสอบ Subject Test ที่เราต้องการด้วยหรือไม่

7. การเลือกสถานที่สอบ ควรเลือกสถานที่ๆ เราสามารถเดินทางไปสอบได้สะดวกที่สุด และควรมีการเตรียมสถานที่สอบสำรองเอาไว้ด้วย เผื่อว่าเราสมัครไม่ทัน จำนวนที่นั่งสอบเต็ม เพื่อลดปัญหาเรื่องการเดินทางและเป็นการลดความเสี่ยงในเรื่องความผิดพลาด และเราสามารถเลือกที่สอบได้ 4 แห่ง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่หากเลือกเกินกว่านั้นก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม

8. การประกาศผลจะมีขึ้นหลังจากการสอบประมาณ 3 อาทิตย์ โดยสามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของ The College Board ได้ด้วยตนเอง

นี่เป็นรายละเอียดอื่นๆ ในการสอบที่เราควรทราบ

จากความต้องการที่ต้องใช้ผลการสอบ SAT Scholastic Assessment Tests เพื่อรับรองความสามารถทางทักษะความรู้ภาษาอังกฤษที่มีมาตรฐานในการยื่นใบสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมหาวิทยาลัยในหลักสูตรนานาชาติ หรือที่เรียกว่าหลักสูตรอินเตอร์ ความนิยมการวัดผลแบบ SAT เนื่องจากเป็นวิธีการวัดผลความพร้อมและความสามารถในตัวนักศึกษาเป็นแบบรายบุคคลซึ่งไม่ได้อ้างอิงผลการเรียนจากทางโรงเรียนต้นสังกัดเดิม ดังนั้นการเตรียมตัวสอบ SAT เพื่อสอบจึงมีความจำเป็นและควรรู้เกร็ดเล็กน้อยในการสอบ SAT ดังนี้

  • สอบ SAT เพื่อสมัครเข้ามหาวิทยาลัยหลักสูตรอินเตอร์ฯ ผลคะแนนการทดสอบ SAT ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและแคนนาดา ต่างให้ความยอมรับในการวัดแผลแบบ SAT
  • สอบ SAT เพื่อศึกษาต่อต่างประเทศไม่ควรสอบเกิน 2 ครั้ง การสอบสามารถทำได้หลายครั้ง ไม่จำกัดจำนวนการสอบ ในสถานศึกษาต่างประเทศจะนิยมเลือกเอาผลการสอบวัดผลครั้งล่าสุดมาเพียงค่าเดียว ต่างจากในประเทศไทยที่นักศึกษาสามารถเลือกค่าผลทดสอบที่มากที่สุดส่งไปยังมหาวิทยาลัยที่ไปสมัครรับทราบได้ทันที
  • สอบ SAT ให้ถูกควรสมัครล่วงหน้า ช่วง early ทุกต้นปีศูนย์รับลงทะเบียนจะมีประกาศแจ้งวันเวลาในการเข้าสอบไว้ล่วงหน้า หากจองสอบ SAT ล่วงหน้าในช่วง Early time จะเป็นช่วงที่ได้ราคาถูกกว่า ใกล้วันสอบประมาณ 1 เดือน เรียกว่าช่วง Deadline หรือ Late registration ที่จองใกล้เวลาทดสอบจะถูกปรับเพิ่มอีก 28 เหรียญสหรัฐ การสมัครล่วงหน้านอกจากจะได้ราคาสอบ SAT ที่ไม่แพงแล้วยังมีโอกาสสามารถเลือกสนามสอบใกล้บ้านได้อีกด้วย ในกรณีที่สนามสอบเต็มสามารถที่จะไปสอบ SAT ที่ประเทศใกล้เคียงที่เปิดสอบ SAT ได้
  • สอบ SAT ผลสอบเก็บไว้ใช้ได้ 2 ปี อายุผลการสอบ SAT สามารถใช้งานได้เพียง 2 ปีเท่านั้น จึงควรวางแผนการสอบให้ผลสอบครอบคลุมเวลาที่จะใช้งาน เช่นหากสอบช่วง มัธยมปีที่ 5 ก็จะสามารถใช้ยื่นสมัครเรียนต่อภาคอินเตอร์ได้ทันทีที่เรียนจบ หากสอบตั้งแต่มัธยมต้น เมื่อเรียนจบมัธยมปลายผลสอบก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้วจำเป็นต้องสอบใหม่เท่านั้น
  • สอบ SAT ส่งผลสอบได้ทางเวปไซต์ ผลสอบ SAT สามารถส่งไปยังมหาวิทยาลัยที่เราไปสมัครโดยต้องทำการส่งผลการสอบจากหน้าเวปไซท์ SAT ซึ่งจะมีปุ่มให้กดส่งผลการสอบไปยังมหาวิทยาลัยที่เราต้องการได้ทันที

การสอบ SAT จำเป็นต้องใช้ทักษะความรู้ที่นอกเหนือจากการเรียนในหลักสูตรทั่วไป การหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อใช้สอบจึงยังคงมีความจำเป็นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม

สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการสอบ กำหนดการ รวมถึงตาราง รายละเอียดต่างๆ ของการสอบ SAT ได้ที่เว็บของ College board ได้โดยตรงเลยครับ

รียน SAT ที่ไหนดี คอร์ส ติว SAT Math ฟรี กับ สถาบัน Acknowledge ทั้งคอร์สรวมและเรียนตัวต่อตัว ออนไลน์ ด้วยครูคนไทยสองท่านที่ชำนาญเฉพาะทาง ประสบการตรงกับการติว SAT มากว่า 10 ปี คอร์สเล็กราคาไม่แพง ซักถามได้ตลอดรอดฝั่ง เน้นปูพื้นแยกบท ผสมการทำโจทย์ที่ตรงแนว