การเตรียมตัวสอบ IELTS : ปัจจัยสำคัญในวันสอบ
การสอบ IELTS เป็นการสอบที่จัดได้ว่ามีค่าสอบที่แพงมากทีเดียว นักเรียนหลายคนมักจะมาบ่นว่าติวเสร็จแล้วก็อยากจะสอบๆให้ผ่านไปได้ในครั้งเดียว แต่ในทางกลับกัน IELTS เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษที่ยากและท้าทาย อย่างมาก แม้ว่านักเรียนทั้งหลายจะคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษในระดับม.ปลายอยู่แล้ว ก็ไม่สามารถจะสอบผ่านกันได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามคุณสามารถลดความเครียดได้ด้วยการมั่นใจว่า เราเข้าใจกฎข้อบังคับและสิ่งที่ต้องปฏิบัติจริงทั้งหมดในวันสอบเป็นอย่างดี ต่อไปนี้เป็นสี่ปัจจัยหลักพร้อมทั้งสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำอีกด้วย และพยายามบอกกับตัวเองไว้ว่า อย่าไปเสียเวลากังวลกับเรื่องง่ายๆ
- การลงทะเบียนวันสอบ
ในวันที่เข้าสอบ (ทั้งการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์) คุณต้องเตรียมบัตรประจำตัวที่ใช้ในการกรอกเอกสารการสมัคร IELTS บางทีคุณอาจต้องใช้รูปถ่ายขนาดเท่ากับในพาสปอร์ต 2 ใบ ควรตรวจสอบให้แน่ใจอีกทีว่าเอกสารใดบ้างที่คุณต้องใช้ จัดการเตรียมไว้ก่อนเลยในคืนก่อนสอบ
- เครื่องเขียนสำหรับวันสอบ
คุณจะได้รับอนุญาตให้เอาเพียงปากกา ดินสอ และยางลบเข้าห้องสอบเท่านั้น แต่ต้องจำให้ได้ว่าคุณต้องใช้ดินสอเขียนลงในส่วนของ Listening และ Reading เนื่องจากเครื่องตรวจคำตอบไม่สามารถตรวจสิ่งที่เป็นหมึกได้
- เผื่อเวลาไปยังสถานที่สอบ
อะไรคือเผื่อเวลาไว้มากๆ แล้วยิ่งเป็นไทยแลนด์แดนสยาม กลางกรุงเทพมหารถติดนคร เป็นการเผื่อเวลาเพื่อให้ตัวของคุณเองรู้สึกไม่ตื่นเต้น และหายจากอาการกังวลในการพยายามหาตึกและห้องสอบที่ถูกต้อง ดังนั้นการเผื่อเวลาไว้มากๆหมายถึงว่าคุณมีเวลามากพอที่จะโฟกัสกับตัวข้อสอบเมื่อก้าวเข้าไปในสถานที่สอบ ถ้าเราไม่รู้ว่าตึกที่จะต้องสอบนั้นอยู่ไหน เราก็ไปสำรวจก่อนวันสอบเลยก็ได้ ในระหว่างการเดินทางนั้น อย่าลืมร่มด้วย
- เวลาคือคะแนน
นาฬิกาไม่หยุดเดินเพื่อให้คุณไปเข้าห้องน้ำ เวลาที่คุณเข้าห้องน้ำจึงเป็นเวลาที่คุณไม่ได้ใช้ทำข้อสอบ การไปเข้าห้องน้ำจึงอาจทำให้คุณเสียคะแนนได้ ฉะนั้นควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเสียก่อน อีกทั้งก่อนออกจากบ้านก็อย่าดื่มน้ำมาก ถ้ารู้ว่าตัวเองท้องเสียก็พยายามทานยาในคืนก่อนจะสอบก่อนเลย
สิ่งที่ต้องควรทำและไม่ควรทำในห้องสอบ
- ปิดมือถือของคุณก่อนเข้าห้องสอบ เพราะหากมือถือคุณดังคุณอาจหมดสิทธิ์สอบเลยก็เป็นได้
- ไม่ควรลุกออกจากเก้าอี้เมื่อคุณทำข้อสอบเสร็จแล้ว ให้รอจนกระทั้งผู้คุมสอบอนุญาต
- คุณมีสิทธิ์บอกผู้คุ้มสอบหากคุณได้ยินเทปการฟังไม่ถนัด
- ไม่ถามคำถามใดๆกับผู้คุมสอบ แม้ว่าคุณไม่เข้าใจคำถาม
การปฏิบัตตัวอย่างไร ให้ทำข้อสอบออกมาได้ดีที่สุด
คราวนี้ขอพูด Tips เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้เราทำข้อสอบออกมาให้ดีที่สุด
สดใสกระปรี้กระเปร่า
หากพูดถึงการนอนพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้สมองปลอดโปร่งในวันสอบ ดูเหมือนไม่ค่อยจะน่าสนใจเอาสะเลย แต่คุณจะประหลาดใจหากเห็นคนที่เดินสะโหล่สะเหล่ เดินเบลอๆ เข้ามาในห้องสอบและไม่สามารถมีสมาธิโฟกัสกับข้อสอบ Listening รวมถึง Speakingได้เลย นักเรียนส่วนใหญ่จึงเลือกสอบก่อนช่วงวันหยุดยาว อาทิเช่น วันหยุดฤดูร้อน วันหยุดฤดูใบไม้ผลิ วันหยุดคริสต์มาส เป็นต้น และด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์จะทำให้คุณทำข้อสอบได้ดีแม้ข้อสอบยาวนานถึงสามชั่วโมงก็ตาม สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การงดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนวันสอบซักสองสามวัน และพยายามปรับเวลานอนให้เข้าที่เข้าทาง
สิ่งที่คุณต้องทำอย่างแท้จริงก็คือ ปรับตัวของคุณเองให้เข้ากับเงื่อนไขต่างๆมากมายของข้อสอบ นั่นจะทำให้สมองของคุณปลอดโปร่งและสามารถทำข้อสอบได้ดีที่สุด หากการสอบ IELTS ของคุณเริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้า ให้ฝึกทำข้อสอบในช่วงเวลาเดียวกันก่อนวันสอบ ออกกำลังกายเล็กน้อยเพื่อคลายความเครียดและหลับสนิทในคืนก่อนสอบ จัดตารางเวลาล่วงหน้าว่าเมื่อไหร่คุณควรดื่มชาหรือกาแฟและอย่ากินอาหารเช้ามากเกินไปเพราะอาจทำให้คุณรู้สึกง่วงได้
จงมีสมาธิ
ระหว่างทำข้อสอบ อย่าให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณมากนัก เพราะนั่นไม่มีประโยชน์อะไรเลย ผู้เข้าสอบคนอื่นก็ตื่นเต้นประหม่าเหมือนกับคุณนั่นแหละ ผู้คุมสอบจะไม่สนใจคุณและไม่จำเป็นเลยที่คุณสนใจสิ่งอื่นนอกเหนือจากตัวตัวข้อสอบ หากคุณเป็นคนประเภทที่ถูกรบกวนได้ง่ายจากเสียงการฝนดินสอ เสียงไอ และเสียงดังของเก้าอี้ ใส่ที่อุดหูไปเลยก็ได้
อย่ากลัวความผิดพลาด
ความเครียดจะมาพร้อมกับความคิดที่ว่าเราอาจจะไม่ได้คะแนนตามที่เราหวังไว้ อีกทั้งความเครียดจะเพิ่มขึ้นไปอีกถ้าคิดว่าเราสอบไม่ผ่านแล้วมานั่งกังวลกับปริมาณเงินที่ต้องเสียในการสอบครั้งต่อไป มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย และนั่นหมายความว่าเราจะไม่มีความเครียดเลยหากเราไม่กลัวว่าเราจะได้คะแนนน้อย
จริงๆแล้ว ข้อสอบ IELTS เป็นข้อสอบที่มีรูปแบบชัดเจนและประกอบด้วยกลุ่มคำถามปกติทั่วไป ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่แปลกตรงไหนหากคุณต้องกลับมาสอบใหม่ เพราะคุณจะเริ่มชินกับมันและทุกอย่างเราได้เจอมาหมดแล้ว อย่ากังวลหากคุณทำคะแนนได้ไม่ดีเพราะคุณสามารถไปสอบใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ และการสอบครั้งต่อไปจะง่ายขึ้นไปอีก จำไว้ว่าแม้แต่อัจฉริยะอย่างไอน์สไตน์ยังต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกครั้งเลย