หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าในการสมัครชิงทุนการศึกษาหลายๆ ทุนนั้น บางทุนอนุโลมให้ยื่นคะแนน TOEIC แทนคะแนน TOEFL หรือ IELTS ได้อีกด้วย!! ถ้ามันง่ายขนาดนั้นมีหรือจะไม่เลือกสอบ เพราะนอกจากจะง่ายกว่าการสอบ TOEFL และ IELTS เยอะแล้ว หลายคนตัดสินใจสอบเพื่อเป็นการทดลองว่าตัวเองนั้นมีความพร้อมในการสอบขั้นอื่น ๆ ต่อไปได้มากแค่ไหน?? มาดูกันว่าการสอบ TOEIC มีประโยชน์อย่างไร และเคล็ดลับในการทำข้อสอบมีอะไรบ้าง
TOEIC เป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษในการทำงาน คนที่จำเป็นต้องนำไปใช้จริงๆ ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน บางบริษัทอาจส่งพนักงานที่ทำงานมานานให้ไปสอบเพื่อดูว่าเหมาะสมจะได้เลื่อนตำแหน่งหรือไม่?? ซึ่งมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในปัจจุบันส่วนมากคงไม่สามารถสู้กับเด็กรุ่นใหม่ ๆ ในเรื่องภาษาอังกฤษได้ ทำให้ผู้ที่ได้คะแนนสูงส่วนมากเป็นนิสิตนักศึกษาที่อาจมาลองสนาม หรืออาจจะมาสอบเก็บไว้เฉยๆ แต่ยังไม่คิดจะสมัครงาน บางบริษัทใหญ่ๆ ได้ตั้งข้อกำหนดว่าหากสอบ TOEIC เกิน 800 ได้งานแน่นอน แต่คนส่วนมากที่สอบได้ขนาดนั้นมักจะเลือกไปเรียนต่อโทต่างประเทศมากกว่า
สอบ TOEIC ยังไงก็ไม่ศูนย์
การสอบ TOEIC จะไม่มีทางได้ศูนย์คะแนนแน่นอน เพราะข้อสอบทั้งส่วนการฟังและการอ่านมีส่วนละ 100 ข้อ แต่จะมีช่วงคะแนนอยู่ที่ส่วนละ 5 – 495 คะแนน ซึ่งคะแนนสเกลต่ำสุดของการสอบคือ 10 คะแนน ส่วนคะแนนเต็มคือ 990 คะแนน คะแนนในการสอบไม่ใช่แบบที่ใช้กันในห้องเรียนที่มีแค่ 30 ข้อและทำถูกแค่ 19 ข้อก็ผ่าน ซึ่งข้อสอบ TOEIC จะให้คะแนนที่ซับซ้อนกว่านั้น ข้อสอบในแต่ละรอบจะไม่ซ้ำกัน โอกาสที่แต่ละชุดข้อสอบจะยากง่ายไม่เท่ากัน เมื่อได้คะแนนดิบออกมา เจ้าหน้าที่จะใช้ข้อมูลทางสถิติมาช่วยเทียบหาคะแนนสเกลที่ควรได้อีกครั้ง ซึ่งคะแนนสเกลจาก 10 ถึง 990 มาจากการนำคะแนนดิบไปเทียบกับข้อมูลทางสถิติของแต่ละรอบที่สอบ ซึ่งทำให้ข้อสอบแต่ละชุด มีการให้คะแนนสเกลที่ไม่เหมือนกัน เพราะข้อสอบมีความยากง่ายไม่เท่ากันนั่นเอง ซึ่งข้อสอบ TOEIC หลายชุดจะเวียนไปโผล่สอบในหลายประเทศต่างวาระกัน ซึ่งการเปลี่ยนคะแนนดิบเป็นคะแนนสเกลของแต่ละชุดข้อสอบจะเป็นความลับ และจะไม่มีเปิดเผยว่าถูกกี่ข้อคิดเป็นกี่คะแนนสเกล ทำให้ไม่มีการเผยแพร่การคิดเป็นคะแนนสเกลของข้อสอบชุดนั้นๆ
การทำข้อสอบ TOEIC สำหรับคนไม่ค่อยมีเวลาเตรียมตัว
ในส่วนของไวยากรณ์ที่ออกสอบ TOEIC สามารถออกได้ทุกอย่างที่มีในหนังสือรวมไวยากรณ์ทั่วไป คุณสามารถเตรียมตัวไปเต็มที่ก็คือการท่องศัพท์ และบทความในส่วนการอ่าน คำศัพท์ที่ออกจะวนอยู่กับข้าวของเครื่องใช้ในสำนักงาน กริยาประเภทขอยืม ส่งซ่อม ไล่ออก ประชุม ลาป่วย ไม่ต้องเตรียมศัพท์หรู ๆ ไปให้เปลืองหน่วยความจำสมอง ส่วนบทความอ่านจะเป็นพวกป้ายประกาศรับสมัครงาน จัดซื้อ หรือจัดจ้าง ประกาศอบรม สัมมนาบุคลากร จดหมายจากผู้บริโภค ฯลฯ และอาจมีอีเมล์โต้ตอบทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน ผู้สอบควรรู้จักตำแหน่งงานตามโครงสร้างบริษัททั่วไป และชื่อตำแหน่งเต็มของตัวย่อหลายตัวที่หลายคนอาจเรียกกันจดติดปากอย่าง HR, AE และ PR เก็บข้อมูล เมื่อมีเวลาว่าง ลองเข้าเว็บไซต์หางานที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วอ่านเรื่อยๆ ก็ได้อะไรกลับมาอย่างแน่นอน
ทำยังไงดี สอบใหม่กลับได้คะแนนน้อยกว่าเดิม
คุณสามารถยื่นคะแนนของการสอบครั้งใดก็ได้ในการสมัครเรียนหรือสมัครงาน เพียงแค่ผลสอบนั้นอายุไม่เกินสองปี และหลังจากปลื้มไปกับคะแนนที่ได้แล้ว อย่าลืมพลิกไปด้านหลังใบคะแนนเพื่อดูคำติชมของระดับคะแนนที่ได้ด้วย โดยคำอธิบายจะแบ่งเป็นสองส่วนเหมือนกับข้อสอบ เรียกได้ว่าเป็นคอมเม้นต์ที่จะช่วยพัฒนาตนเองด้านภาษาอังกฤษเยอะเลยทีเดียว
สภาพแวดล้อมมีผลต่อการสอบมาก เพราะการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีจะทำให้มีสมาธิในการสอบได้เป็นอย่างดีแบบมี พื้นที่กว้าง แอร์เย็นสบาย และมีเสียงลำโพงที่เปิดพอประมาณแต่ได้ยินชัดทั้งห้อง กับการไปเจอสภาพแวดล้อมที่แย่ โต๊ะเบียดกัน เป็นห้องใหญ่อาจทำให้แอร์ไม่ทั่วถึง บางจุดหนาว บางจุดร้อน ซึ่งผู้สอบจะต้องคุมอารมณ์ให้ดีหรือแก้ปัญหาเพื่อให้การสอบ TOEIC เสร็จเร็วและถูกต้องแม่นยำที่สุด
TOEIC Tips
- เทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC
- เรียน Listening ให้ประสบผลสำเร็จ
- การเพิ่มคะแนนในส่วนของการฟัง
- เรียนรู้ 5 กลวิธีในการอ่าน
- TOEIC Speaking
- TOEIC Writing
- เคล็ดลับในการเตรียมตัวสอบ TOEIC
- เคล็ดลับภาคต่อ ของการสอบ TOEIC