ภาษาอิตาเลียนเป็นยังไง

หลายคนอาจจะคิดว่าการเรียนภาษาอิตาเลียนฟังยาก เรียนยาก จริงๆแล้วอาจจะต้องบอกว่าใช่ค่ะ ทุกภาษาล้วนมีความยากของตัวเอง ยากแตกต่างกันไปคนละแบบ แต่ก็อยู่ที่ตัวผู้เรียนว่าจะตั้งใจ ทุ่มเทและใส่ใจต่อการเรียนมากแค่ไหน

การเรียนอิตาเลียน ให้เล่ารายละเอียดกันตรงๆเลย เค้าเขียนอะไรมา เราอ่านแบบนั้นเลยอ่านตรงตัวไม่บิดพลิ้ว ไม่ละตัวท้ายเหมือนภาษาฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ผู้เรียนทำได้คือการอ่านออกเสียง แม้จะไม่เข้าใจถึงความหมาย แต่ผู้เรียนก็สามารถอ่านออกเสียงได้โดยไม่รู้สึกเคอะเขิน และการสะกดคำก็ใช้ตัวอักษรเหมือนภาษาอังกฤษ แยกเป็นพยัญชนะและสระ a,e,i,o,u ส่วนพยัญชนะ เราก็ยกตัวอักษรภาษาอังกฤษมาใช้ต่อ ยกเว้นพยัญชนะบางตัวเท่านั้น เช่น j,k,w,x,y  แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการใช้นะ เรามักจะเจอในกลุ่มคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ เช่น il yacht, il karaoke, il jazz. ซึ่งอ่านออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษได้เลย

ว่าด้ายเรื่องการออกเสียงและการสะกดคำในภาษาอิตาเลียน การเรียงรูปแบบประโยคคล้ายกับภาษาอังกฤษเช่นกัน คือมีการใช้ tense แบ่งเป็นช่วงเวลาอดีต ปัจจุบัน และอนาคต คล้ายกับภาษาอังกฤษ ส่วนนี้อ่านจะยากสำหรับการเรียนอยู่บ้างคือ คำกริยาหนึ่งคำสามารถแตกออกเป็น 6 คำใน tense เดียว เช่น verb to be ในการเรียนภาษาอิตาเลียนเรียกว่า il verbo essere สามารถกระจายออกได้เป็น sono, sei, e’, siamo, siete, sono ตามประธาน io,tu,lui/lei, noi,voi,loro ตามลำดับ  และในชีวิตประจำวันของชาวอิตาเลียน มักจะละประธานออกไป เหลือเพียงแค่คำกริยา เช่น sei italiano? (คุณเป็นคนอิตาเลียนใช่มั้ย) แทนที่จะเป็น Tu sei italiano?

แต่ผู้เรียนอิตาเลียนอาจจะไม่จำเป็นต้องละประธานในช่วงแรกๆก็ได้เช่นกัน แต่สาเหตุที่ชาวอิตาเลียนละประธานออกไป เนื่องจากคำกริยาที่กระจายออกมา 6 รูปแบบมีลักษณะหน้าตาแตกต่างกัน ทำให้ผู้เรียนภาษาอิตาเลียนไม่จำเป็นใช้สรรพนามแทนประธานในการพูดหรือเขียนก็ได้

การเรียงประโยคในภาษาอิตาเลียนก็คล้ายกับภาษาอื่นๆ คือ เริ่มจากประธาน ตามด้วย คำกริยา และกรรม ตามลำดับสำหรับประโยคบอกเล่า  เช่น (io) mangio il gelato. (ฉันกินไอศครีม) ส่วนประโยคคำถามไม่จำเป็นต้องสลับตำแหน่งประธานกับคำกริยาเหมือนภาษาอังกฤษ

เช่น (io)sono italiano.  (tu) sei italiano? (ฉันเป็นคนอิตาเลียน คุณเป็นคนอิตาเลียนใช่ไหม)

อาจเป็นเพราะว่าโดยปกติจะเป็นการละประธานอยู่แล้ว และประโยคบอกเล่า ไม่มีการใช้กริยาช่วย เหมือนภาษาอังกฤษ เพียงเติ่มคำว่า non วางไว้หน้า verb เท่านั้น เช่น (io) sono italiano

(io) non sono italiano. (ฉันไม่ใช่คนอิตาเลียน).

นี่แหละโครงสร้างภาษาอิตาเลียนเบื้องต้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าจะยากก็อาจจะยากคนละแบบ ทุกภาษามีความยากของตัวมันเอง ผู้เรียนในทุกภาษาต้องเข้าใจธรรมชาติของมัน ไม่มีอะไรยากเกินกว่าจะเรียน นอกจากนี้การเรียนสามารถนำไปต่อยอดการเรียนภาษาอื่นๆได้นะ เช่นภาษาฝรั่งเศส และ ภาษาสเปน ซึ่งถือว่าจัดอยู่ในตระกูลภาษาโรมานซ์เหมือนกัน มักจะมีโครงสร้าง การอ่านที่คล้ายคลึงกัน รวมไปถึงคำศัพท์ ที่เราจะสามารถเดาความหมายออกได้ ดังนั้นถ้าเรียนภาษาใดภาษาหนึ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นสเปน ฝรั่งเศส หรือ อิตาเลียนก็สามารถเรียนต่อภาษาในตระกูลเดียวกันได้อย่างสบาย แต่ยังไม่จบแค่นั้น หลายคนมองว่าภาษาอิตาเลียนมีความคล้ายคลึงกับภาษาละตินมากที่สุด ทำให้ใครก็ตามที่เรียนภาษาอิตาเลียนสามารถเดาความหมายคำศัพท์ในภาษาอังกฤษได้อย่างสบาย ฉะนั้นมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ต้องกังวลเลยว่า จะเรียนไม่ได้ เรียนไม่รอด ภาษาอิตาเลียนไม่ได้ยากอย่างที่คิด ทุกคนเรียนได้อย่างแน่นอน

<< กลับหน้าแรก เรียนภาษาอิตาเลียน