ภาษาเยอรมันดีไหม

ภาษาเยอรมันเป็นภาษาที่ใช้ในประเทศเยอรมนี ออสเตรีย ลิกเตนชไตน์ และสวิตเซอร์แลนด์ (สวิตเซอร์แลนด์ใช้ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาเลี่ยนเป็นภาษาทางการ) เนื่องจากจำนวนประชากร และขนาดเศรษฐกิจของประเทศเยอรมัน และการที่ประชากรชาวเยอรมันพูดอังกฤษค่อนข้างน้อย ทำให้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาหนึ่งที่สำคัญในยุโรป (ใครเคยไปเที่ยวเยอรมนีหรือสวิตเซอร์แลนด์ คงทราบดีว่าที่สถานีรถไฟ แม้แต่ในเมืองใหญ่ แทบไม่มีภาษาอังกฤษเลยค่าท่านผู้ชม)

อ้าว แล้วภาษาเยอรมันสำคัญยังไงกับคนไทยกันล่ะ หลายๆคนคงทราบดีกว่าเมื่อสัก 10 ปีก่อน นักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งจากทางยุโรปที่มาเที่ยวประเทศไทย คือคนเยอรมัน (ปัจจุบันอาจจะมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเข้ามาเยอะเช่นกัน) สมมติถ้าเรานั่งรถไฟฟ้า แล้วเจอฝรั่ง 70% จะเป็นคนเยอรมัน และเนื่องจากประเทศเยอรมนีเป็นประเทศที่มีถ่านหินและมีอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ มากมาย จึงมีคนเยอรมันมาลงทุนหรือขยายบริษัทที่ประเทศไทยค่อนข้างมาก เช่น Siemens Borsch Bayer และบริษัทรถยนต์จากเยอรมนีทั้งหลาย เช่น Benz BWM Porsche เป็นต้น และสิ่งสำคัญที่ทุกคนอาจจะยังไม่รู้คือ ในหลาย ๆ รัฐของเยอรมัน นักเรียนไม่ต้องเสียค่าเทอมแม้จะเป็นนักเรียนต่างชาติ (มีเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แตกต่างกันไปในแต่ละมหาวิทยาลัย) ทำให้มีนักเรียนไทยจำนวนไม่น้อยที่ไปเลือกจะไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมนี แน่นอนว่าการได้เรียนฟรีที่เยอรมันนั้น จะต้องแลกกับความพยายามในการเรียนภาษาเยอรมันให้ได้ ส่วนใหญ่รับที่ระดับ B1 (B1 เปรียบเหมือนเป็น level 3 ของการสอบวัดระดับภาษาเยอรมัน)  จนไปถึงระดับ TestDaf เป็นต้นไป (TestDaf เปรียบเสมือนการสอบ IELTS เพื่อเข้าเรียนต่อที่อังกฤษ)

นอกจากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกอยากเรียนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสาวไทย (อาจจะหนุ่ม ๆ ด้วย) อย่างมาก ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ตาสีฟ้า ผิวขาวอมชมพู เป็นที่ต้องตาต้องต้องใจสาวไทยยิ่งนัก และในทางกลับกัน สาวไทยหน้าตาคมเข้ม ช่างเอาอกเอาใจ ก็เป็นที่ต้องตาต้องใจชายเยอรมันเช่นกัน (ใครที่หน้าตาไม่พิมพ์นิยมสำหรับชาวเยอรมัน ไม่ต้องห่วงนะคะ ผู้เขียนเจอสาวหมวยเดินเคียงคู่กับชายชาวดอยท์ชเยอะเหมือนกัน) แต่การที่จะร่วมกันตั้งหลักปักฐานที่ประเทศเยอรมนีนั้น สาวไทยจะต้องเรียนรู้ภาษาเยอรมัน และสอบวัดระดับให้ผ่านระดับ A1 (level 1) ให้ได้ จึงจะไปอยู่ที่เยอรมันได้ (วีซ่าท่องเที่ยว และวีซ่าเยี่ยมเยียนอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือนค่ะ) ด้วยประการฉะนี้เอง ที่ทำให้ภาษาเยอรมันจึงเป็นหนึ่งในภาษาที่มีคนต้องการเรียนมากที่สุดภาษาหนึ่งทีเดียวนะคะ

แล้วหากจะเริ่มเรียนเยอรมันจะยากไหม จะเริ่มเรียนได้ยังไง แล้วจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะพูดได้ การเรียนเยอรมันก็ไม่ต่างกับการเรียนภาษาอังกฤษ นั่นคือ นอกเหนือจากในห้องเรียนแล้ว ผู้เรียนควรฝึกฝนด้วยตัวเองอยู่เป็นประจำ ผู้เรียนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้างจะทำให้เรียนรู้ได้เร็วกว่าเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษค่อนข้างน้อยก็ไม่ต้องท้อใจไป ความขยันและการฝึกฝนช่วยได้แน่นอน

ภาษาเยอรมันอาจจะมีความซับซ้อนในบางจุดที่ภาษาอังกฤษไม่มี แต่ถ้าหากเริ่มเข้าใจตัวภาษา การแต่งประโยคเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก ความยากของภาษาเยอรมันที่นักเรียนหลายคนโอดครวญ นั่นคือรายละเอียดของภาษาที่ต้องจำเยอะ เช่น the ในภาษาเยอรมัน ที่มีถึง 3 ตัว นั่นคือ der die das เช่น The sun = Die Sonne แต่พระจันทร์ ต้องใช้ Der Mond การจะจำได้หรือไม่ ใครใคร่ท่อง ท่องได้ค่ะ ส่วนใครที่มีโอกาสได้พูดบ่อยๆ ก็นำไปพูดนำไปใช้บ่อย ๆ จำได้แน่นอนเนอะ ใครยังไม่มีโอกาส หาโอกาสและหาแรงบันดาลใจในการเรียนเยอรมันนะคะ ที่เยอรมนีเรียนฟรี ความปลอดภัยสูง และหนุ่มหล่อด้วยนะคะ (แหม ประเด็นมันอยู่ตรงนี้เอง)

อีกเรื่องหนึ่งที่นักเรียนทุกคนคร่ำครวญไม่แพ้กัน นั่นคือ การผันของคำกริยาตามประธานต่าง ๆ เช่น Ich komme = I go แต่ถ้า you go ได้ 2 แบบ คือ Sie kommen (Sie แปลว่า คุณ) แต่ Du kommst (du แปลว่า เธอ) ทำไมต้อง komme kommen kommst  ใช้ kommen ตัวเดียวได้ไหมเนี่ย คำตอบคือ ไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าลืมว่าต้องผันยังไง ใช้ไปเถอะค่ะ ไม่เป็นไรเนอะ ตรงนี้อาจจะดูเยอะ แต่อย่างที่กล่าวไปแล้ว การฝึกฝนฝึกพูดอยู่เสมอจะทำให้เราพูดออกไปเองโดยที่สมองยังไม่ทันได้ผันเลยค่ะ Ich komme อิคคค…  ค้อมเมอะ  –  อิคคค… ค้อมมเมอะ  – อิคคค…  ค้อมเมอะ เป็นไงคะ ยังไม่ได้เริ่มคอร์สเรียน ก็จำได้แล้วเนอะ ฉันมาแล้ว อิคคค… ค้อมเมอะ ฉันมาแล้ว อิคคค…  ค้อมเมอะ!!!

กว่าจะพูดได้เหรอคะ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย  สำหรับใครที่มีคนฝึกพูดประจำข้างกาย ก็จะสามารถพูดได้เร็วกว่าคนอื่นสักหน่อย ใครที่ไม่มี ก็หยิบหนังสือมาถามตอบกับตัวเองหน้ากระจกไปก่อนนะคะ จะเห็นว่าผู้เขียนค่อนข้างเน้นการได้พูด ฝึกสนทนามาก ถ้าหากมาเรียนกับสถาบัน Acknowledge ของเรา ครูผู้สอนก็จะเน้นให้นักเรียนได้ฝึกพูดเยอะ ๆ จำได้ไม่ได้ อยู่ที่การฝึกนี่แหละค่ะ

การสอบวัดระดับ A1 เป็นระดับยอดฮิตของสาวไทย ที่ต้องพิชิตให้ได้ ที่สถาบันของเราจะแบ่งการเรียนเป็น 2 คอร์ส คอร์สละ 40 ชม. แต่นักเรียนหลายคนเลือกที่จะเรียนคอร์สแรกคอร์สเดียว แล้วแยกเรียนตัวต่อตัวเพื่อเน้นการสอบ A1 ค่ะ แต่ขอบอกนิดนึงนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ๆ วัยรุ่น ที่เรียนตัวต่อตัวเพิ่มอีกเพียง 10 ชม. ก็สอบผ่าน ถ้าหากใครที่รู้ตัวค่อนข้างช้าหน่อย อาจจะต่อคอร์สสอง หรือจับกลุ่มเล็ก ๆ กันมาเรียนก็ได้ค่ะ เอาล่ะ ใครที่อยากเรียน เราควรเริ่มมาเรียนกันแต่เนิ่น ๆ นะคะ เรียนภาษาต้องใช้เวลา และการฝึกฝนค่ะ